Scroll Top
Testcular implant
เสริมอัณฑะ

เสริมอัณฑะ (Testcular Implant)

การผ่าตัดเสริมอัณฑะหรือการใส่อัณฑะเทียมเป็นการผ่าตัดเพื่อใส่ลูกอัณฑะ เทียม (TESTCULAR IMPLANT)เข้าไปในถุงอัณฑะ เป็นการผ่าตัดสำหรับผู้ที่มีปัญหาไม่มีลูกอัณฑะ1 ข้างหรือไม่มีทั้ง 2 ข้าง โดยอาจมีสาเหตุตั้งแต่กำเนิดหรืออาจมีความจำเป็นต้องตัดลูกอัณฑะออกภาย หลัง การที่มีอัณฑะข้างเดียวมีผลต่อจิตใจทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ทำให้เกิดความ กังวล และอับอายว่าตนเองมีความผิดปกติต่างจากผู้อื่นทำให้เป็นปมด้อยในเด็กบาง คน การผ่าตัดใส่อัณฑะเทียมช่วยให้ผู้ที่มีปัญหามีความมั่นใจในตนเองมาก ขึ้น ลดความกังวลและช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจหลังการถูกตัดอัณฑะ

การผ่าตัดใส่ลูกอัณฑะเทียมมีการทำกันมาเป็นเวลามากกว่า 50 ปีแล้วทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ดังนั้น จึงถือได้ว่าเป็นการผ่าตัดที่มีความปลอดภัยมากและมีปัญหาหลังการผ่าตัด น้อย การผ่าตัดทำในกรณีต่างๆ ที่ทำให้ต้องตัดลูกอัณฑะทิ้งไปหรือในกรณีอื่นๆ ดังนี้

  1. ลูกอัณฑะไม่เลื่อนลงมาในถุงอัณฑะ ต้องตัดเพราะป้องกันการเกิดมะเร็ง
  2. ภาวะขั้วของถุงอัณฑะบิดแล้วทำให้ขาดเลือดไปเลี้ยงอัณฑะทำให้ต้องตัดอัณฑะทิ้งไป
  3. ไม่มีลูกอัณฑะตั้งแต่กำเนิด
  4. อุบัติเหตุทำให้ต้องตัดลูกอัณฑะ
  5. มะเร็งต่อมลูกหมากหรือลูกอัณฑะทำให้ต้องตัดลูกอัณฑะทิ้งไป
  6. การอักเสบของลูกอัณฑะอย่างรุนแรงจะต้องตัดออก
  7. คนที่เป็นกระเทยแท้แล้วต้องการเปลี่ยนอวัยวะเพศให้เป็นชาย
  8. ผู้หญิงที่ต้องการเปลี่ยนเพศเป็นเพศชาย

นอกจากกรณี ดังกล่าวแล้วการผ่าตัดเสริมอัณฑะ สามารถทำในคนที่อัณฑะมีขนาดเล็กผิดปกติแต่ยังมีการผลิตฮอร์โมนได้ตามปกติ การผ่าตัดทำโดยวางถุงอัณฑะเทียมด้านหน้า ต่ออัณฑะเดิมทีมีขนาดเล็ก โดยไม่ผ่าตัดเอาอัณฑะเดิมออกหลังการผ่าตัดก็จะได้ถุงอัณฑะที่มีลูกอัณฑะ ชัดเจนโดยที่ลูกอัณฑะจริงอยู่ด้านหลัง ซึ่งลูกอัณฑะจริงก็ยังสามารถผลิตอสุจิ และฮอร์โมนตามปกติโดยทั่วไป จะไม่แนะนำให้ผ่าตัดเอาลูกอัณฑะออก ยกเว้นกรณีที่มีข้อบ่งชี้จากการแพทย์ การผ่าตัดเสริมลูกอัณฑะไม่แนะนำในคนที่มีขนาดลูกอัณฑะปกติ

ชนิดของถุงอัณฑะเทียม

ถุงอัณฑะเทียมมีการผลิตทั้งชนิดซิลิโคนแท่งที่นิ่มมากและชนิดที่เป็นถุง ซิลิโคนที่มีการบรรจุสารภายในลักษณะเช่นเดียวกับถุงเต้านมเทียมแต่มีรูปร่าง และขนาดแตกต่างกันโดยถุงจะออกแบบมาเป็นผิวเรียบอย่างเดียวในปัจจุบันประเทศ ไทยมีการนำเข้าเฉพาะถุงซิลิโคนรูปวงรีโดยจะมีความ
แตกต่างของชนิดดังนี้

  1. สารที่บรรจุในถุง มี 2 แบบ คือ ถุงน้ำเกลือและถุงเจล
  2. ขนาดของถุง ถุงจะมีรูปร่างเหมือนอัณฑะธรรมชาติแต่จะมีขนาดแตก ต่างกัน ประมาณ 4 ขนาดคือ เล็กมาก , เล็ก , กลาง , ใหญ่ ขนาดจะมีความแตกต่างกันแล้วแต่บริษัทผู้ผลิต การเลือกขนาดของถุงคงต้องเลือกขนาดให้ใกล้เคียงกับอัณฑะอีกข้างหนึ่งเพื่อ ให้มีรูปร่างและขนาดเป็นธรรมชาติ หรือในกรณีที่ต้องการเพิ่มขนาดอัณฑะ อาจเลือกขนาดตามความต้องการเป็นรายๆไป

การใส่ถุงอัณฑะเทียมอาจเกิดพังพืดหดรัดได้เช่นเดียวกับถุงเต้านมเทียมการ เกิดพังพืดรัดมีผลให้มีความรู้สึกเจ็บและตึงแต่อย่างไรก็ตามการเกิดพังพืดหด รัดในถุงอัณฑะมีน้อยมากแตกต่างจากถุงเต้านมเทียม ในคนที่วางแผนว่าจะมีบุตรอีกนานอาจต้องฝากสเปิร์ม ในธนาคาร สเปิร์ม กรณีที่มีภาวะแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อ , แผลแยก ,การมีเลือดคั่งหรือการเลื่อนของถุงอัณฑะอาจเกิดขึ้นได้

ข้อห้ามของการผ่าตัด

  1. มีการติดเชื้อบริเวณส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย
  2. ยังไม่สิ้นสุดการรักษามะเร็ง

การศึกษาก่อนผ่าตัด

  1. สุขภาพร่างกายไม่สามารถผ่าตัดใหญ่ได้
  2. ก่อนการผ่าตัดควรปรึกษาแพทย์เพื่อ
    – เลือกชนิดของถุงว่าใช้น้ำเกลือหรือถุงเจล
    – เลือกขนาดโดยจะต้องตรวจร่างกายและวัดถุงอัณฑะอีกข้าง
    – เทคนิคการผ่าตัดว่าจะเปิดแผลอย่างไรบางครั้งถ้ามีแผลเป็นเดิมอยู่แล้วก็มักเลือกผ่าตัดผ่านแผลเดิม
  3. เจาะเลือดตรวจร่างกายรวมทั้งตรวจปัสสาวะ
  4. การผ่าตัดควรทำในช่วงที่มีสุขภาพแข็งแรงถ้าเป็นหวัดหรือเป็นไข้ควรเลื่อนผ่าตัดไปก่อน
  5. การผ่าตัดอาจทำได้ทั้งดมยาสลบและการฉีดยาชาโดยทั่วไปแนะนำให้ดมยาสลบ เพราะสะดวกสบายกว่าอย่างไรก็ตามในเด็กควรทำผ่าตัดโดยการดมยาสลบเท่านั้น
  6. ในผู้ที่ต้องตัดอัณฑะจากโรคมะเร็งต่อมลูกหมากควรปรึกษาศัลยแพทย์ทางเดินปัสสาวะก่อนว่าโรคที่เป็นรักษาหายแล้วหรือไม่
  7. การผ่าตัดใส่ลูกอัณฑะเทียมเป็นการผ่าตัดใส่สิ่งแปลกปลอมในร่างกายดังนั้นอาจมีปัญหาที่ต้องแก้ไขเมื่อใดก็ได้

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด

  1. ถ้าดมยาสลบให้งดน้ำงดอาหาร 6 – 8 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัด
  2. เตรียมโกนขนอวัยวะเพศมาจากบ้านถ้าไม่ได้โกนขนมาจากบ้านอาจมาโกนที่โรงพยาบาลก็ได้
  3. สวมใส่กางเกงหลวมๆ ในวันที่มาผ่าตัดกางเกงในควรเตรียมที่หลวมๆ เช่นกัน
  4. ก่อนมาผ่าตัดอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาด
  5. งดยาแก้ปวดกลุ่มแอสไพริน 10 วันก่อนผ่าตัด
  6. งดการสูบบุหรี่ 1 อาทิตย์ก่อนผ่าตัด
  7. ถ้ามีโรคประจำตัวเช่นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนผ่าตัดว่าได้หรือไม่
  8. เตรียมตัวหยุดงานประมาณ 5 วันหรือในเด็กเล็กควรเลือกผ่าตัดในช่วงปิดเทอม

ขั้นตอนการผ่าตัด

การผ่าตัดใส่ลูกอัณฑะเทียมเป็นการผ่าตัดที่ไม่ยุ่งยากอาจทำผ่าตัด แล้วกลับบ้านได้เลยหรือพักที่โรงพยาบาลประมาณ 1 คืน ขึ้นกับวิธีการใช้ยาระงับความรู้สึกถ้าดมยาสลบต้องนอนพักที่โรงพยาบาล 1 คืน

  1. หลังจากฉีดยาชาหรือดมยาสลบแล้วแพทย์จะทำความสะอาดโดยใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ
  2. เปิดแผลที่ผิวหนังของถุงอัณฑะ ถ้าไม่มีแผลเป็นมาก่อนจะเปิดแผลบริเวณด้านบนจะเป็นแผลที่ดูแลหลังผ่าตัดง่ายกว่าด้านล่าง
  3. สร้างช่องว่างในถุงอัณฑะสำหรับใส่ลูกอัณฑะเทียม
  4. ถ้ามีเลือดออกมากอาจต้องใส่สายระบายน้ำเหลือง
  5. เย็บปิดแผลโดยอาจเลือกใช้ไหมละลาย
  6. การผ่าตัดใช้เวลา 30 – 40 นาที
  7. หลังผ่าตัดจะใส่ผ้ายืดหรือพลาสเตอร์และผ้าพันแผลเพื่อยกถุงอัณฑะไว้ไม่ให้ตกลงเพื่อลดความเจ็บปวดหลังการผ่าตัด

การดูแลหลังผ่าตัด

  1. จะรู้สึกตึงๆและปวดแผลประมาณ 24 – 48 ชั่วโมงอาการปวดมักเป็นไม่มากสามารถลดอาการปวดโดยใช้ยาแก้ปวดชนิดทานก็เพียงพอ
  2. หลังผ่าตัดจะมีพลาสเตอร์หรือผ้ารัดถุงอัณฑะซึ่งต้องใส่ไว้ประมาณ 3 – 4วันหรือในบางรายอาจต้องใส่ไว้ประมาณ 1 อาทิตย์โดยแพทย์จะพิจารณาเป็นรายๆไป
  3. อาการบวมและปวดที่ถุงอัณฑะจะมีประมาณ 2 – 3 อาทิตย์
  4. โดยทั่วๆไปสามารถปัสสาวะได้ตามปกติ
  5. โดยทั่วไปมักใช้ไหมละลายไม่ต้องตัดไหมออกแต่ในบางรายถ้าเย็บด้วยไหมชนิดไม่ละลายจะตัดไหมประมาณ 7 – 14 วัน
  6. มาตรวจตามที่แพทย์นัด โดยทั่วไปจะนัดตรวจในวันที่ 3 หรือ 7 วันหลังผ่าตัด
  7. แผลสามารถถูกน้ำได้หลังผาตัดประมาณ 1 อาทิตย์

ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นหลังการผ่าตัด

การใส่ลูกอัณฑะเทียมเป็นการรักษาที่ต้องผ่าตัดดังนั้นหลังผ่าตัดอาจพบปัญหาได้แต่โดยทั่วไปอาการข้างเคียงจากการผ่าตัดพบได้น้อยมาก

  1. เลือดออกโดยทั่วไปถ้าเลือดออกเล็กน้อยสามารถหายได้เองแต่ถ้าเลือดออกมากอาจต้องดูดออก
  2. การติดเชื้อของแผลผ่าตัดพบได้ประมาณ 1% เหมือนกับผ่าตัดบริเวณอื่นๆ
  3. ภาวะแคลเซียมเกาะที่รอบถุงอัณฑะเทียมพบในกรณีที่ผ่าตัดไปนานมากๆ โดยทั่วไปต้องแยกจากมะเร็งของอัณฑะ
  4. การรั่วซึมของถุงอัณฑะเทียมมักเกิดกับถุงน้ำเกลือโดยอาจเกิดจากการที่เล่นกีฬารุนแรง, การนวดที่รุนแรงหรือการถูกทำร้ายร่างกาย
  5. การมีน้ำเหลืองคั่งเกิดได้น้อยกว่า 1%
  6. การทะลุของถุงอัณฑะเทียมเกิดจากการที่ผิวหนังตึงเกินไปโดยอาจเลือกขนาดลูกอัณฑะใหญ่เกินไป
  7. การเลื่อนตำแหน่งของถุงอัณฑะเกิดได้ประมาณ 2%
  8. การชาที่ส่วนล่างของถุงอัณฑะเกิดได้ประมาณ 1%
  9. ในเด็กเล็กที่ใส่ถุงอัณฑะขนาดเล็กเมื่อเด็กโตขึ้นอาจต้องเปลี่ยนขนาดของถุงให้ใหญ่ขึ้น

ผลการผ่าตัด

การใส่ถุงอัณฑะเทียมเป็นการผ่าตัดวิธีเดียวในปัจจุบันที่ช่วยให้มีลูก อัณฑะเป็นธรรมชาติและดูดีเหมือนกับลูกอัณฑะอีกข้างหนึ่งมากที่สุด ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีอื่นที่ได้ผลดีเท่าการใช้ลูกอัณฑะเทียม โดยทั่วไปคนส่วนใหญ่จะพอใจในผลการผ่าตัดและมีความมั่นใจในการดำเนินชีวิตคู่ และมีความมั่นใจมากขึ้นในการมีเพศสัมพันธ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครั้งแรกๆ ช่วยลดปมด้อยในเด็กเล็กที่อาจถูกล้อเลียนโดยเพื่อนร่วมชั้นที่รู้ แม้ว่าจะเป็นส่วนที่มองไม่เห็นจากภายนอกแต่การใส่ลูกอัณฑะเทียมก็ช่วยให้ เด็กมั่นใจและสามารถใช้ชีวิตในชั้นเรียนได้อย่างมีความสุขมากขึ้น

Privacy Preferences
When you visit our website, it may store information through your browser from specific services, usually in form of cookies. Here you can change your privacy preferences. Please note that blocking some types of cookies may impact your experience on our website and the services we offer.