ผู้ที่มีอายุมากขึ้น นอกจากรอบริมฝีปากจะมีรอยย่นแล้ว ยังจะมีริมฝีปากตกลง การผ่าตัดริมฝีปากจะช่วยให้ริมฝีปากเชิดขึ้น ช่วยให้ดูมีอายุน้อยลง
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
- งดยาแก้ปวด กลุ่ม NSAID 2 อาทิตย์
- สมุนไพร บางชนิดเช่นอีฟนิ่งพริมโรส ยาวิตามินอีปริมาณสูง ๆ อาหารที่มีส่วนผสมของผงชูรส กระเทียม หัวหอม ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง อาจทำให้เลือดออกมากผิดปกติหรือมีปัญหาระหว่างผ่าตัด ควรแจ้งให้แพทย์ทราบเพราะอาจต้องหยุดรับประทานสมุนไพรก่อนเข้ารับการผ่าตัด ประมาณ 3 – 5 วัน
- เตรียมหยุดงานประมาณ 3 วัน
- ไม่ต้องงดอาหารก่อนผ่าตัด
- ควรปรึกษาแพทย์ถึงปริมาณริมฝีปากที่จะยกขึ้น ว่าสูงเท่าไหร่ก่อนผ่าตัด
- สระผม ล้างหน้าตอนเช้าก่อนผ่าตัดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- ควรแจ้งให้แพทย์ทราบถึงโรคประจำตัวของคุณ เช่น เบาหวาน,โรคหัวใจ และยาที่แพ้ เช่น เพนนิซิลิน,ซัลฟา ฯลฯ
- ถ้ามีความดันโลหิตสูง ต้องควบคุมให้ต่ำกว่า 140/90 mm Hg(มิลลิเมตร ปรอท) ก่อนมารับการผ่าตัด
- มีคนมาเป็นเพื่อน เพื่อช่วยดูแลขณะกลับบ้าน
ขั้นตอนการผ่าตัด
- แผลผ่าตัดที่ริมฝีปากจะอยู่ที่ขอบล่างของจมูก
- ฉีดยาชาเฉพาะที่บริเวณที่จะผ่าตัด
- ตกแต่งยกขอบริมฝีปาก
- เย็บปิดแผลโดยใช้ไหมเส้นเล็ก
การดูแลหลังผ่าตัด
- วันแรกหลังผ่าตัดให้เอาผ้าปิดแผลออกได้
- ใช้น้ำเย็นประคบประมาณ 24 ชั่วโมง
- งดออกกำลังกายที่ต้องมีการปะทะ เช่น ฟุตบอล บาสเกตบอล แฮนด์บอล ประมาณ 4 สัปดาห์
- ระมัดระวังเวลายิ้ม อย่ายิ้มกว้างมากในช่วงแรก
- หลังผ่าตัดสามารถแต่งหน้าได้
- งดการสูบบุหรี่ 3 สัปดาห์ หลังการผ่าตัด
- ดื่มน้ำมากๆ
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใน 2 สัปดาห์ แรกหลังการผ่าตัด
- ทายาตามแพทย์สั่ง เช้า – เย็น 5 วันแรก หลังการผ่าตัด
- แพทย์จะนัดตัดไหมประมาณ 7 วัน และนัดตรวจ 2 สัปดาห์
- แผลเป็นอาจเห็นชัดในช่วง 4 สัปดาห์แรก หลังจากนั้นจะค่อยๆจาง
หมายเหตุ
- ล้างหน้า, สระผมได้ตามปกติ
- 2 อาทิตย์หลังทำผ่าตัดนั้น หากที่บริเวณแผลมีรอยเขียวช้ำสามารถประคบน้ำ ร้อนได้ วันละประมาณ 2 ครั้ง (รอยฟกช้ำนั้นสามารถหายได้ตามธรรมชาติ)
- หลังผ่าตัดหากแผลยุบบวมลง อาจมีไหมที่เย็บด้านในออกมาได้ คนไข้สามารถเข้ามาตัดไหม โดยไม่ต้องพบแพทย์ได้
- หลังตัดไหม 2 สัปดาห์ แนะนำให้ทาวิตามิน E,C ตามด้วยครีมกันแดด เพื่อป้องกันไม่ให้เห็นรอยแผลผ่าตัดได้ชัดเจน