สำหรับผู้ป่วยที่มีริมฝีปากบางและต้องการให้ริมฝีปากอิ่มเอิบ การผ่าตัดอาจทำได้โดยการฉีดไขมัน, ใช้เนื้อเยื่อผิวหนังหรือการฉีดสารอื่นๆ
เทคนิคการผ่าตัด
สารบัญ
เทคนิคที่ 1
การเสริมโดยฉีดไขมัน โดยไขมันที่ใช้ฉีดได้มาจากการดูดที่บริเวณ ต้นขาหรือหน้าท้อง การฉีดไขมันเป็นวิธีที่ปลอดภัย อาจต้องหยุดงานประมาณ 2 – 5 วัน มีอาการบวมน้อย ตำแหน่งที่ฉีดจะฉีดผ่านเนื้อเยื่ออ่อนที่ริมฝีปาก เมื่อหายแล้ว แผลเป็นจะเห็นไม่ชัด
เทคนิคที่ 2
การเสริมโดย เนื้อเยื่อของผิวหนัง โดยผิวหนังที่นำมาเสริมจะได้มาจากส่วนล่างของหน้าท้องหรือบริเวณขาหนีบ ในกรณีที่ดึงหน้า หรือตัดไขมัน ก็สามารถนำผิวหนังที่ถูกตัดมาใช้ได้
เทคนิคที่ 3
การเสริมริมฝีปากโดยการผ่าตัด ทำโดยลงแผลเนื้อเยื่อระหว่างเหงือกกับริมฝีปาก ในเทคนิคการผ่าตัด w-plasty เพื่อให้ริมฝีปากเชิดมากขึ้น สามารถทำได้ที่คลินิก โดยการผ่าตัด วิธีนี้ี้ใช้ได้ดีกับริมฝีปากบนมากกว่าริมฝีปากล่าง
เทคนิคที่ 4
โดยการฉีดสารชนิดอื่นๆ เช่น คอลลาเจน, hyaluran,dermaliveในต่างประเทศ ปัจจุบันนิยมใช้ radiance มาฉีดบริเวณริมฝีปากมากขึ้น
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
เฉพาะ (เทคนิคที่ 1, 2 และ 3)
- เตรียมตัวหยุดงานประมาณ 3 วัน
- งดยาแก้ปวด กลุ่มที่เป็นยาต้านเกล็ดเลือด ประมาณ 10 วันก่อนผ่าตัด
- สมุนไพรบางชนิดเช่นอีฟนิ่งพริมโรส ยาวิตามินอีปริมาณสูง ๆ อาหารที่มีส่วนผสมของผงชูรส กระเทียม หัวหอม ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง อาจทำให้เลือดออกมากผิดปกติหรือมีปัญหาระหว่างผ่าตัด ควรแจ้งให้แพทย์ทราบเพราะอาจต้องหยุดรับประทานสมุนไพรก่อนเข้ารับการผ่าตัดประมาณ 3-5 วัน
- อาบน้ำ แปรงฟันก่อนมาผ่าตัด
- ทานอาหารให้พออิ่ม
- สำหรับผู้ที่จะวางยาสลบต้องงดน้ำ งดอาหาร ก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 6 ชั่วโมง
- ผู้ที่มีความดันสูงต้องควบคุมให้ปกติก่อนผ่าตัด 2 อาทิตย์
ขั้นตอนการผ่าตัด
เทคนิคที่ 1 และ 2
- ฉีดยาชาเฉพาะที่
- แพทย์จะลงแผลที่บริเวณสะดือหรือต้นขา และดูดไขมันออกมาเตรียมเพื่อใช้ในการฉีด
- เปิดแผลที่ริมฝีปาก และฉีดเข้าที่บริเวณใต้เยื่อบุริมฝีปาก
- เย็บปิดแผลที่ริมฝีปาก
เทคนิคที่ 3
- วาดรูปแผลที่จะลงที่ริมฝีปากด้านใน
- ฉีดยาชาบริเวณที่จะผ่าตัด
- ลงแผลผ่าตัด
- จัดตำแหน่งของริมฝีปากใหม่จนได้ตำแหน่งที่ต้องการ
- เย็บปิดแผล
การดูแลหลังการผ่าตัด
- ผักผลไม้ที่นำมารับประทานควรล้างให้สะอาดไม่ควรกินปลาดิบหรือเนื้อที่ไม่สุก หรืออาหารที่มีโอกาสปนเปื้อนเชื้อโรคได้มาก
- บ้วนปากบ่อยๆด้วยน้ำเกลือหรือน้ำสะอาดหรือน้ำยาบ้วนปาก
- อย่าใช้ลิ้นดุนหรือใช้มือดึงไหมที่เย็บแผลในปาก
- งดออกกำลังกายที่อาจต้องมีการปะทะเช่นฟุตบอล บาสเกตบอล แฮนด์บอลประมาณ 4 อาทิตย์
- ระมัดระวังเวลายิ้มอย่ายิ้มกว้างมากในช่วงแรก
- ดื่มน้ำโดยใช้หลอดและหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำหรืออาหารที่ร้อนหรือเย็นเกินไป
- สามารถใช้ลิปสติกได้ 1 อาทิตย์หลังผ่าตัด
- งดการสูบบุหรี่ 3 อาทิตย์หลังการผ่าตัด
- ดื่มน้ำมากๆ
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกฮอร์ใน 2 อาทิตย์แรกหลังการผ่าตัด
- ประคบน้ำเย็นที่ริมฝีปาก 2 – 3 วัน
- ครบ 7 วัน ตัดไหมบริเวณหน้าท้อง และริมฝีปาก ถ้ามีการเย็บแผลด้วย
- หลังผ่าตัดอาจต้องนวดบริเวณริมฝีปากเพื่อให้ไขมัน ที่ฉีด เรียบมากขึ้น
- นอนยกศีรษะสูง (หนุนหมอน 2 ใบ) เพื่อลดอาการบวม
- แพทย์จะนัดตรวจอาการ ประมาณ 3 – 4 อาทิตย์
- โดยทั่วๆ ไป ไขมันหรือผิวหนังที่ฉีดจะลดหายไปบางส่วนและคลำได้ก้อนแข็งประมาณ 1 เดือน
- สำหรับเทคนิคที่ 1 ไม่ต้องตัดไหม เนื่องจากใช้ไหมละลายเย็บแผล