แปลงเพศหญิงเป็นชาย
การผ่าตัดแปลงเพศจากหญิงเป็นชายนั้นเป็นการผ่าตัดที่มีประวัติการทำมานาน และได้มีการพัฒนาเทคนิคการผ่าตัดจนปัจจุบันนี้สามารถทำได้ผลดีกว่าในอดีตมาก มีตั้งแต่การใช้ผนังหน้าท้องหรือท้องแขนมาสร้างอวัยวะเพศ
อย่างไรก็ตาม การเตรียมตัวผู้ป่วยก่อนการผ่าตัดนั้น จะใช้หลักการเดียวกันกับการเตรียมผู้ป่วยเพื่อแปลงเพศจากชายเป็นหญิง (หารายละเอียดจาก MTF reassignment surgery) เพียงแต่พิจารณาในทางกลับกันเท่านั้น เมื่อผู้ป่วยได้รับการประเมินสภาพจิตใจเรียบร้อยแล้ว และได้รับใบรับรองจากจิตแพทย์ (psychological assessement licence)
ศัลยแพทย์จะวางแผนการดูแลเพื่อผ่าตัดเปลี่ยนแปลงร่างกายจากผู้หญิงให้เป็นผู้ชาย เป็นขั้นตอนดังต่อไปนี้
- ขั้นตอนที่ 1
ผ่าตัดหน้าอกออก (subcutaneous mastectomy) เป็นการผ่าตัดเพื่อเอาเนื้อเต้านมออกเพื่อให้เต้านมมีลักษณะใกล้เคียงกับเต้านมของเพศชายมากขึ้น โดยการผ่าตัดจะทำโดยการลงมีดที่บริเวณปานนมครึ่งล่าง (areolar) แผลผ่าตัดดังกล่าวเมื่อหายแล้วจะซ่อนได้ดีกว่าวิธีอื่นๆ เนื่องจากสีจะกลืนไปกับสีของปานนมได้ดี การผ่าตัดใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงหลังการผ่าตัดแล้วแพทย์จะวางท่อระบายเลือดไว้ประมาณ 1 วัน เมื่อไม่มีเลือดหรือน้ำเหลืองออกมาแล้วก็จะเอาท่อระบายเลือดออก แผลผ่าตัดจะใช้เวลาประมาณ 5 วัน ก็จะตัดไหมออกได้ ผู้ป่วยที่มีเต้านมค่อนข้างใหญ่หลังผ่าตัดอาจจะมีผิวหนังส่วนเกินบ้างในระยะแรก แต่จะค่อยๆยุบตัวลงจนแนบกับหน้าอกได้ในเวลาประมาณ 3-5 เดือน - ขั้นตอนที่ 2
ผ่าตัดมดลูกและรังไข่ออก (Total uterus and ovaries removal) เนื่องจากเพศชายไม่มีมดลูกและรังไข่ ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องเอามดลูกและรังไข่ออกในผู้ป่วยกลุ่มนี้ เพื่อจะได้ไม่มีปัญหาเรื่องประจำเดือนและเป็นการตัดแหล่งสร้างฮอร์โมนเพศหญิงออก ขั้นตอนนี้จะเป็นการผ่าตัดโดยสูตินรีแพทย์ และสามารถที่จะทำร่วมกันได้กับการผ่าตัดขั้นตอนแรกเมื่อการผ่าตัดทั้งสองขั้นตอนผ่านไปด้วยดีแล้ว โดยแผลผ่าตัดที่หน้าอกและหน้าท้องหายสนิทดี และแผลภายในหลังการตัดมดลูกออกหายสนิทแล้ว (ประมาณ 3 เดือน) - ขั้นตอนที่ 3
เป็นขั้นตอนการสร้างอวัยวะเพศเทียม ซึ่งวิธีการทำกันมากในปัจจุบันจะมี 3 วิธีสร้าง คือ
เทคนิคที่ 1 การทำอวัยวะเพศชายขนาดเล็ก (METOIDOPLASTY)
เป็นเทคนิคการผ่าตัดที่มีพัฒนามาจากการแก้ไขท่อปัสสาวะเปิดผิดปกติผู้ที่จะผ่าตัดชนิดนี้ได้ต้องใช้ฮอร์โมน เพศชายมาก่อนเป็นระยะเวลา 6 เดือน – 1 ปี จนคลิตอริสมีขนาดใหญ่กว่าปกติมาก การใช้ฮอร์โมนเทสโทรเตอโรน อาจใช้ยาฉีดหรือยากินหรือใช้ยาทาก็ได้ ยาทาเทสโทสเตอโรนครีม ได้พอดี ในบางคนสามารถเพิ่มขนาดคลิตอริสได้ใหญ่มาก การเพิ่มขนาดคลิตอริสทำให้มีขนาดใหญ่เพียงพอที่จะทำเป็นอวัยวะเพศชายขนาดเล็กก็ได้ ผลของการผ่าตัดวิธีนี้จะได้อวัยวะเพศชายที่เหมือนอวัยวะเพศเด็ก สามารถยืนปัสสาวะได้แต่ไม่สามารถใช้ร่วมเพศได้เทคนิคการผ่าตัดทำโดย เป็นแผลเหนือและใต้คลิตอริสแล้วยืดความยาวของคลิตอริสให้ยาวขึ้นแล้ว สร้างท่อปัสสาวะให้ยาวขึ้น โดยมาเปิดที่ปลายขนาดคลิตอริสแล้วเย็บปิดแผลด้านนอกของคลิตอริส ผลการผ่าตัดที่ได้จะทำให้ คลิตอริสยาวขึ้นและปัสสาวะออกทางสายทำให้มีลักษณะเหมือนกับปัสสาวะของอวัยวะเพศของเด็ก วิธีนี้เหมาะกับคนที่ต้องการเพียงแค่สามารถยืนปัสสาวะได้ แต่ไม่ต้องการไปร่วมเพศ การผ่าตัด ไม่มีแผลเป็นมากทำให้ในปัจจุบัน นิยมมากขึ้นและสามารถผ่าตัดทำอวัยวะเพศขนาดใหญ่ได้ภายหลังถ้าต้องการใช้ร่วมเพศหลังการผ่าตัดจะต้องคาสายสวนปัสสาวะไว้ประมาณ 2 อาทิตย์ และต้องเปิดระบายปัสสาวะทางหน้าท้อง 2 อาทิตย์ ในวันที่ 15 หลังผ่าตัดจะเอาท่อปัสสาวะออกก่อนแล้วลองปัสสาวะดู ถ้าปัสสาวะได้ จึงเอาสายระบายปัสสาวะทางหน้าท้องออก
เทคนิคที่ 2 สร้างอวัยวะเพศเทียมจากผนังหน้าท้อง (ไม่ต้องต่อเส้นเลือด)
จะสร้างอวัยวะเทียมโดยอาศัยผนังหน้าท้องส่วนล่าง โดยแบ่งขั้นตอนการผ่าตัดเป็น 3 ขั้นตอน แต่ละขั้นตอนห่างกันประมาณ 3 เดือน
- ขั้นตอนที่ 1
– สร้างท่อปัสสาวะบริเวณผนังหน้าท้อง
– เพิ่มความยาวของท่อปัสสาวะโดยใช้ ผนัง ของ ช่องคลอด เพื่อเตรียมตัวที่จะต่อในขั้นตอนที่ 2 และ เลาะเนื้อเยื่อช่องคลอดออกมา - ขั้นตอนที่ 2– สร้างอวัยวะเพศชายจากผนังหน้าท้อง และย้ายตำแหน่งมาไว้ที่ตรงหัวเหน่า
– เย็บปิดผนังหน้าท้อง - ขั้นตอนที่ 3
– ตกแต่งปลายอวัยวะเพศ
– ต่อท่อปัสสาวะทั้ง 2 ปลายเข้าหากัน
– ใส่ลูกอัณฑะ (Silicone)ใส่แกนอวัยวะเพศเทียมให้สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติขั้นตอนทั้ง 3 ขั้นตอนต้องแยกการผ่าตัด วิธีการดังกล่าว มีข้อดี คือ มีแผลเป็นอยู่ใกล้เคียงกันอวัยวะที่สร้างขึ้นมาใหม่ และไม่ต้องมีแผลเป็นที่แขน แต่มีข้อเสีย คือ รูปร่างอวัยวะเพศ มีขนาดใหญ่ อาจต้องมาตกแต่งเพิ่มเติมภายหลังและต้องผ่าตัดหลายครั้ง
เทคนิคที่ 3 มี 3 ขั้นตอน คือ
- เป็นการผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนแปลงทางเดินของท่อปัสสาวะและปิดช่องคลอด ทั้งนี้เนื่องจากทิศทางของท่อปัสสาวะในผู้หญิงจะเป็นทิศทางที่พุ่งลงล่าง ส่วนของเพศชายจะพุ่งไปด้านหน้า ดังนั้นศัลยแพทย์ตกแต่งจึงมีความจำเป็นจะต้องเปลี่ยนแปลงท่อปัสสาวะเตรียมไว้ก่อน ร่วมกับการผ่าตัดปิดช่องคลอดให้ปิดสนิท การหายของแผลในขั้นตอนนี้ใช้เวลาประมาณ 2-3 อาทิตย์ ผู้ป่วยมีความจำเป็นต้องนอนพักในโรงพยาบาลประมาณ 2-3 วัน เมื่อแผลผ่าตัดเรียบร้อยดีแล้วอาจจะต้องมีสายปัสสาวะคาอยู่อีกประมาณ 1 อาทิตย์เพื่อให้ท่อปัสสาวะหายสนิทดีก่อนที่จะถอดสายปัสสาวะออก
- แพทย์จะใช้วิธีการผ่าตัดโดยการสร้างอวัยวะเพศชายจากเนื้อเยื่อที่ท้องแขน แล้วย้ายไปต่อเส้นเลือดเส้นประสาท ด้วยวิธีจุลศัลยกรรม (microsurgery)แพทย์จะสร้างอวัยวะเพศชาย (Phalloplasty) ให้โดยการย้ายเนื้อจากท้องแขนมาทำการตัดเย็บให้เป็นรูปร่างแท่งยาวประมาณ 4-6 นิ้วแล้วแต่ความยาวของแขนของผู้ป่วย โดยเฉลี่ยจะประมาณ 5 นิ้ว แล้วแยกเส้นเลือด เส้นประสาทของท้องแขน นำไปตัดต่อเข้ากับเส้นเลือดเส้นประสาทที่บริเวณตำแหน่งของอวัยวะเพศชาย โดยใช้วิธีทางจุลศัลยกรรม และพร้อมกับสร้างถุงอัณฑะโดยอาศัยเนื้อเยื่อจากบริเวณแคมใหญ่ของเดิม โดยผ่าตัดใส่ถุงอัณฑะเทียม เข้าไปใน แคมใหญ่พร้อมกันนี้ก็จะต่อท่อทางเดินปัสสาวะที่แพทย์เตรียมสร้างไว้แล้วในระยะก่อนหน้านี้เข้าด้วยกัน เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถถ่ายปัสสาวะไปถึงปลายอวัยวะเพศได้ ความรู้สึกของอวัยวะเพศที่สร้างขึ้นใหม่นี้จะได้จากเส้นประสาทที่มาเลี้ยงคลิปทอริส แผลผ่าตัดบริเวณท้องแขนที่นำเนื้อไปใช้ทำอวัยวะเพศนั้น แพทย์จะใช้ผิวหนังมาปิดคลุมให้ทดแทน
- การใส่แกนอวัยวะเพศเพิ่มเติมเพื่อจุดประสงค์การมีเพศสัมพันธ์ โดยมากแล้วจะสามารถทำได้หลังจากอวัยวะเพศที่สร้างไว้ประสบผลสำเร็จ นั่นคือ ยุบบวม แผลผ่าตัดติดดี และแผลเป็นนุ่มตัวแล้ว และที่สำคัญคือ เส้นประสาทรับความรู้สึกที่อวัยวะเพศใหม่ฟื้นตัวดี สามารถรับความรู้สึกจับต้องและความเจ็บปวดได้แล้ว