เหมาะสำหรับผู้ที่หัวคิ้วย่น, มีรอยย่นบนหน้าผาก หางตาตก ยิ้มมีรอยตีนกา และคิ้วต่ำลงมาใกล้ตาหรือบังตาจนรบกวนการมองเห็น วิธีการผ่าตัดโดยใช้กล้องเหมาะกับผู้ที่มีรอยย่นหน้าผากเล็กน้อยและมีคิ้วตกเล็กน้อยถึงปานกลาง โดยปกติที่หน้าผากเราจะมีกล้ามเนื้อใต้ผิวหนัง ทำหน้าที่ย่นหน้าผาก เลิกคิ้ว หรือขมวดคิ้ว ดังนั้นผลจากการหดตัวของกล้ามเนื้อเพื่อทำหน้าที่ดังกล่าวนานๆ เข้าก็เกิดเป็นริ้วรอยดังกล่าว
การดึงหน้าผากจะช่วยลดริ้วรอยดังกล่าว ช่วยให้ใบหน้าส่วนบนอ่อนเยาว์ขึ้น การดึงหน้าผากโดยใช้กล้อง มีข้อดีคือ แผลผ่าตัดมีขนาดเล็กกว่าการดึงหน้าผากแบบปกติ ทำให้มีการเกิดแผลน้อยกว่าวิธีดึงหน้าผากแบบปกติ แต่เนื่องจากต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น
การปรึกษาก่อนผ่าตัด
สารบัญ
การปรึกษาเรื่องการดึงหน้าผากจะต้องเตรียมตัวปรึกษาในปัญหาเรื่องดังต่อไปนี้
- ตำแหน่งของคิ้วที่ต้องการยกขึ้นมาก- น้อย แค่ไหน
- ผู้ที่มีผิวหนังที่มีความยืดหยุ่นน้อย อาจไม่สามารถยกได้สูงมาก
การทำ Endoscopic Browlift เหมาะกับ
- ผู้ที่มีคิ้วตกน้อยถึงปานกลาง (ระยะระหว่างกลางคิ้วถึงม่านตา(pupil) 1.5 – 2.5 cm.)
- Francheight โดยปกติจะมากกกว่า 2.5 cm. แต่ถ้าน้อยกว่า 2.5 cm. ถือว่าคิ้วตก
- Brow glide คือ การยกคิ้วขึ้น จนได้ตำแหน่งสูงสุดปกติ 1-2 cm.
หมายเหตุ
ผู้ที่มีคิ้วตกมาก (ระยะคิ้วถึงม่านตาน้อยกว่า 1.5 cm.) ควรทำการผ่าตัด forehead lift แบบปกติได้ผลดีกว่าใช้กล้อง
คนไข้ที่เหมาะกับการ Endoscopic Foreheadlift
- มีรอยย่นระหว่างคิ้ว
- มีรอยย่นหน้าผาก
- คิ้วตกระดับน้อยถึงปานกลาง
- หนังตาตกโดยที่มีคิ้วตกร่วมด้วย
- คนชาติตะวันตก การดึงหน้าผากโดยใช้กล้องได้ผลดีกว่าคนเอเชีย แต่ในคนเอเชียที่ผิวหนังบางก็ได้ผลดีเช่นกัน
การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัด
- งดยาต้านการอักเสบ (NSAID) เช่นแอสไพริน บุหรี่ อาหารเสริมบางตัวที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น กระเทียม น้ำมันปลา อย่างน้อย 2 อาทิตย์ ก่อนการผ่าตัด
- สมุนไพรบางชนิดเช่นอีฟนิ่งพริมโรส ยาวิตามินอีปริมาณสูง ๆ อาหารที่มีส่วนผสมของผงชูรส กระเทียม หัวหอม ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง อาจทำให้เลือดออกมากผิดปกติหรือมีปัญหาระหว่างผ่าตัด ควรแจ้งให้แพทย์ทราบเพราะอาจต้องหยุดรับประทานสมุนไพรก่อนเข้ารับการผ่าตัดประมาณ 3 – 5 วัน
- สำหรับผู้ที่จะวางยาสลบต้องงดน้ำ งดอาหาร ก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 6 ชั่วโมง
- สระผมตอนเช้าก่อนผ่าตัดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- ผู้ที่มีความดันสูงต้องควบคุมให้เป็นปกติก่อนผ่าตัด 2 อาทิตย์
- เตรียมงดสูบบุหรี่ก่อนผ่าตัด 1 – 2 อาทิตย์
- เตรียมตัวหยุดงานประมาณ 5 – 7 วัน
- ควรพาเพื่อนมาด้วยในวันผ่าตัด ควรมีคนขับรถให้ในวันกลับจากโรงพยาบาล
- ถ้ามีโรคประจำตัว ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน
- ผู้ที่เป็นโรคหัวใจบางชนิด ต้องกินยาต้านเกล็ดเลือด เช่น ยา aspirin ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนผ่าตัด
- ผู้ที่กินยา Cumadin เพื่อป้องกันภาวะการแข็งตัวของเส้นเลือดดำที่ขาหรือในผู้ที่เป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวและหยุดยาก่อนมารับการผ่าตัด
- เครื่องประดับที่เป็นโลหะควรถอดเก็บไว้ที่บ้าน เพื่อป้องกันการสูญหาย เนื่องจากไม่สามารถใส่ระหว่างผ่าตัดได้
การดูแลหลังการผ่าตัด
- วันแรกหลังการผ่าตัด แพทย์จะเอาสายระบายน้ำเหลืองออกพร้อมกับเปิดแผลที่ศีรษะ
- ประคบเย็นที่หน้าผาก วันละ 4 ครั้ง เพื่อลดอาการบวม ประมาณ 7 – 10 วัน
- นอนยกศีรษะสูง (หนุนหมอน 2 – 3 ใบ) เพื่อลดอาการบวม
- ผ้าตาข่ายที่พันบริเวณใบหน้านั้นปิดไว้เพียง 1 วัน เช้าวันรุ่งขึ้นให้ตัดหรือแกะออก จากนั้นสระผมได้โดยเกาอย่างเบามือ เพื่อล้างคราบเลือดออก ซับแล้วเป่าผมให้แห้ง สามารถสระผมได้ทุกวันตามปกติ
- 7 วันหลังทำการผ่าตัด ให้มาคลายไหมที่ศีรษะเพื่อลดอาการตึง
- หลังจากคลายไหมแล้ว ใช้ “Vitamin E” ทานวดที่แผล (หลังหู, ท้ายทอย) เพื่อป้องกันการเกิดแผลเป็นนูนแข็ง (ทานวดประมาณ 3 เดือน) วันละ 2 ครั้ง ทุกๆวัน
- 14 วันหลังทำการผ่าตัด ให้มาตัดไหมทั้งหมดออก (พร้อมทั้งพบแพทย์เพื่อตรวจแผล)
- รับประทานยาตามแพทย์สั่งจนหมด ถ้าเกิดอาการแพ้ยา เช่น มีผื่นแดง, คัน, คลื่นไส้อาเจียน, แน่นหน้าอก ให้มาพบแพทย์ทันทีหรือติดต่อเจ้าหน้าที่โดยใช้สาย Hotline
- ในวันที่ 1 – 3 หลังผ่าตัด จะมีอาการบวมที่หน้าผาก
ในวันที่ 3 – 7 อาการบวมจะอยู่ที่รอบดวงตาและใต้ตา บางครั้งอาจมีอาการเขียวช้ำที่บริเวณแก้มและรอบดวงตา ถ้ามีรอยเขียวช้ำ อาจประคบน้ำอุ่นบ่อยๆ จะช่วยให้อาการเขียวช้ำหายไป
หมายเหตุ
- ล้างหน้า, สระผมได้ตามปกติ (1 เดือนหลังทำผ่าตัดสามารถทำสีผมได้)
- 1 อาทิตย์หลังการผ่าตัดนั้น หากที่บริเวณแผลมีรอยเขียวช้ำ สามารถประคบน้ำร้อนได้ วันละประมาณ 2 ครั้ง (รอยฟกช้ำนั้นสามารถหายได้ตามธรรมชาติ)
- หลังผ่าตัดแล้ว หากพบไหมยังหลงเหลืออยู่ ให้ดึงหรือตัดออกเอง
- รับประทานอาหาร, โดนแสงแดด, ออกกำลังกายได้ตามปกติิ
- บริเวณหนังศีรษะอาจชาได้ ประมาณ 1 – 2 เดือน
- อาการบวมและรอยช้ำ จะหายไปภายใน 10 -14 วัน คุณสามารถลดอาการบวมได้ด้วยการนอนหนุนหมอนสูง และการประคบเย็น ขอบตาจะดำคล้ำชั่วคราว
- หลังผ่าตัดสามารถแต่งหน้าได้ภายใน 3 – 5 วัน
- พบเจอผู้คนได้ภายใน 7 -14 วันและต้องแต่งหน้าช่วย