ในขณะที่มีอายุมาก ผิวหนังบริเวณใต้คางมักมีไขมันสะสม ซึ่งมักเกิด ร่วม กับการหย่อนตัวของคาง ในบางรายที่มีผิวหนังไม่หย่อนมาก การดูดไขมันใต้คางเพียงอย่างเดียว โดยไม่ต้องดึงคอก็สามารถช่วยให้รูปคางดูดีขึ้นได้ การดูดไขมันเหมาะกับการที่มีไขมันใต้คางมาก แต่คอยังหย่อนไม่มาก ซึ่งจะได้ผลดีในผู้ชายอายุประมาณ 30-50 ปี เป็นวัยที่เริ่มอ้วนขึ้นและมีไขมันสะสมที่ใต้คางและใต้กระดูกกราม การที่มีไขมันเพิ่มบริเวณนี้ ทำให้กระดูกกรามถูกบดบังและมองไม่เห็นรูปร่างกระดูกกราม (JAWLINE) ทำให้ดูมีอายุมากกว่าวัย โดยทั่วไปการดูดไขมันใต้คอและคางจะดูดไขมันออกมากกว่าการดูดไขมันบริเวณลำตัวและต้นขา ทำให้ไขมันเหลือใต้ผิวหนังให้น้อยที่สุด เพื่อให้ขอบขากรรไกร ดูชัดเจนขึ้นเหมือนกับวัยรุ่น 15-20 ปี และมีมุมของคอและคางเป็นมุมแหลมขึ้น ทำให้รูปหน้าโดยรวมดูเด็กลง
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
- งดยาต้าน (NSAID) เช่น แอสไพริน บุหรี่ อาหารเสริมบางตัวที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น กระเทียม น้ำมันปลา อย่างน้อย 2 อาทิตย์ ก่อนเข้ารับการผ่าตัด
- สมุนไพรบางชนิด เช่น อีฟนิ่งพริมโรส ยาวิตามินอีปริมาณสูงๆ อาหารที่มีส่วนผสมผงชูรส กระเทียม หัวหอม ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง อาจทำให้เลือดออกมากผิดปกติหรือมีปัญหาระหว่างผ่าตัด ควรแจ้งแพทย์ทราบเพราะอาจต้องหยุดรับประทานสมุนไพรก่อนเข้ารับการผ่าตัด ประมาณ 3-5 วัน
- ผู้ที่มีความดันสูงต้องควบคุมให้ปกติก่อนรับการผ่าตัด 2 อาทิตย์
- เตรียมตัวหยุดงานประมาณ 2-3 วัน
- เตรียมงดสูบบุหรี่ก่อนผ่าตัด 1-2 อาทิตย์
- ถ้ามีโรคประจำตัว ควรแจ้งแพทย์ทราบ
- งดน้ำและอาหาร 6 ชั่วโมง ก่อนดมยาสลบ
หมายเหตุ
- ล้างหน้า,สระผมได้ตามปกติ
- 2 อาทิตย์ หลังทำผ่าตัดนั้น หากที่บริเวณแผลมีรอยซ้ำสามารถประคบร้อนได้ วันละประมาณ 2 ครั้ง (รอยฟกซ้ำนั้นสามารถหายได้ตามธรรมชาติ)
- หลัง 2 อาทิตย์ นวดคาง วันละ 2 ครั้ง เพื่อลดอาการบวม อาการแข็งบริเวณแผล และให้โลหิตไหลเวียนสะดวก
- รับประทานอาหาร โดนแสงแดด ออกกำลังกายได้ตามปกติ