สารที่ใช้ตกแต่งใบหน้าในปัจจุบันมีหลายชนิด เช่น โบท๊อกซ์ คอลลาเจน โดยสารตกแต่งมักใช้เพื่อเพิ่มความอิ่มของใบหน้า, ริมฝีปาก, ใต้ดวงตา, เพิ่มขนาดของอวัยวะต่างๆ และใช้ลดริ้วรอยบริเวณใบหน้า เนื่องจาก ในปัจจุบันมีสารเติมเต็มออกมามาก โดยยังไม่มีการควบคุมอย่างจริงจัง ผู้ใช้บริการที่ต้องการฉีดสารดังกล่าว ควรศึกษาผลของการฉีดสารแต่ละชนิด ผลข้างเคียงและการแก้ไขหลังทำการฉีด เนื่องจากการฉีดสารบางชนิดที่เป็นสารเติมเต็มแบบถาวร อาจไม่สามารถแก้ไขได้จนเป็นปกติ ในที่นี้ จะกล่าวถึง เฉพาะสารที่นำเข้ามาใช้ในประเทศไทย
โดยทั่วไป อาจแบ่งกลุ่มสารเติมเต็มที่ใช้ฉีดได้เป็น 4 กลุ่ม คือ :
กลุ่ม 1 สารเติมเต็มแบบไม่ถาวร (Non-permanent filler)
กลุ่ม 2 สารเติมเต็มแบบกึ่งถาวร (Semipermanent filler) มักเป็นกลุ่มที่มีการผสมของสารถาวรด้วยตัวนำซึ่งไม่ถาวรและฉีดเข้าไป
กลุ่ม 3 สารสงเคราะห์เลียนแบบธรรมชาติ (Bio Catolysis) Newfill
กลุ่ม 4 สารธรรมชาติจากร่างกาย เช่น ไขมันหรือผิวหนังที่ตัดออกมา
กลุ่ม 1 สารเติมเต็มแบบไม่ถาวร (Non-permanent filler)
สารบัญ
- A. Collagen
คอลลาเจน เป็นสารธรรมชาติที่สกัดจาก คอลลาเจนของวัว สามารถนำมาใช้ลดริ้วรอยที่ใบหน้าและเสริมแต่งบริเวณใบหน้าและริมฝีปาก โดยปกติจะอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน เนื่องจากเป็นสารที่สกัดจากเนื้อเยื่อธรรมชาติ ทำให้มีโอกาสแพ้ประมาณ 3 – 5 % ดังนั้นจึงต้องทำการทดสอบก่อนการฉีดยา ข้อด้อยของคอลลาเจน คือ เป็นสารที่มีราคาแพงและอยู่ได้ระยะเวลาสั้น แต่อย่างไรก็ตาม คอลลาเจน ถือเป็นสารธรรมชาติที่มีความปลอดภัยสูงในการใช้ฉีดที่ใบหน้า เนื่องจากเป็นสารไม่ถาวร สารที่นำมาใช้ในประเทศไทย ได้แก่ Zyderm และ ZYPlast (McGhan Medical, Santa Barbara CA) - B. Hyaluronic Acid
หรือ Hyaluran กลุ่ม polysaccharide Hyaluronic acid เป็นสารธรรมชาติที่สกัดจนได้สารที่เหมือนสารในร่างกายมนุษย์ โดยในกลุ่มนี้มีสาร 2 ชนิด ที่นำมาใช้ในปัจจุบัน ได้แก่- B1 Hyaform gel (Bio Matrix , me, Ridgefield, NJ)
สกัดมาจากหงอนไก่ ในกลุ่มนี้จะมีสารที่ใช้ฉีด ได้แก่ Hyaform fineline, Hyaform, Hyaform plus โดยมีความเข้มข้นประมาณ 6 มก./ซีซี สามารถนำมาใช้ลดริ้วรอยใต้ตา, ร่องแก้ม และร่องลึกของบริเวณใบหน้า โดยที่ Hyalorm fineline ใช้สำหรับฉีดใต้ตา ส่วน Hyaform plus เป็น form ที่ออกแบบให้มีอายุนานประมาณ 8 เดือน – 1 ปี ใช้สำหรับฉีดร่องลึก - B2 Restylane (Q Med, Uppsala, Sweden)
เป็นสารที่สกัดมาจาก น้ำตาลที่ถูกย่อยโดยแบคทีเรียสเตรปโตคอคคัส จึงได้สาร Hyarulan Restlane มีความเข้มข้นสูงกว่า Hyaform โดยมีความเข้มข้น 20 มก./ซีซี โดยมีฟอร์มต่างๆ ได้แก่ Restylane และ Prolane โดยที่ Prolane สามารถอยู่ได้นานกว่า Restylane สามารถใช้ฉีดเสริมใบหน้า, ริมฝีปาก และลดริ้วรอยของร่องแก้ม
- B1 Hyaform gel (Bio Matrix , me, Ridgefield, NJ)
- C. Captiane เป็น hyaluran
ตัวแรกที่ไม่ได้ผลิตจากสัตว์ ใช้ฉีดร่องแก้มหรือลดริ้วรอยสามารถอยู่ในร่างกายได้ประมาณ 1 ปี
ข้อดีของ hyaluran คือไม่มีการแพ้ และสามารถฉีดโดยไม่ต้องทดสอบถ้าต้องการฉีดเพิ่มเติมสามารถฉีดเพิ่มได้ใน 2 อาทิตย์
กลุ่ม 2 สารเติมเต็มแบบกึ่งถาวร (Semipermanent filler)
- A. Articoll (Rofil Medical International B.V.Bresda Netherlands)
เป็นสาร Polymethyl methacrylate ที่แขวนลอยอยู่ในคอลลาเจน โดยที่คอลลาเจนจะเป็นตัวพาอาคิดเลตเข้าไปในเนื้อเยื่อและคอลลาเจนจะสลายไปโดยที่อาคิเลตจะอยู่ในเนื้อเยื่อต่อไป Articoll สามารถใช้ฉีดร่องแก้ม, ริมฝีปาก, แผลเป็น - B. Dermalive
Dermalive เป็นสาร methylmethacrylate เช่นเดียวกับ Articoll แต่แขวนลอยอยู่ในไฮยาลูแรน โดยที่ไฮยาลูแรน จะเป็นตัวพาอาคิเลตเข้าไปในเนื้อเยื่อแล้วจะสลายไป โดยที่อาคิเลตจะยังคงอยู่ในเนื้อเยื่อต่อไป - C. Bioplast
เป็นซิลิโคนที่มีขนาดเล็กๆ แขวนลอยอยู่ในสาร Polyvinyl pyrrolidone hydrogel หลังการฉีด hydro gel จะถูกดูดซึมไปใน 4 อาทิตย์ ซิลิโคนจะถูกจับโดยคอลลาเจนของร่างกาย - D. Aquamid
ด้วย 2.5% polyacrylamide และน้ำ 97.5% - E. Amazing gel
เป็นสาร polyacrylamide เป็นสารที่ใช้ฉีดมีผลถาวร มีการผลิตในประเทศจีน ใช้ฉีดใบหน้าและหน้าผาก - F. Radiance เป็น Hydroxyapatite
ซึ่งเป็นสารที่เป็นไขมันและกระดูก และมีการนำมาใช้ในการผ่าตัดศัลยกรรมกระดูกมานาน โดยทั่วๆ ไป Radiance สามารถอยู่ได้นานประมาณ 3 – 6 ปี
กลุ่ม 3 สารสงเคราะห์เลียนแบบธรรมชาติ (Bio Catolysis)
- A Scaptra หรือ Newfill เป็น synthetic poly lactic acid
เป็นสารกลุ่ม polylaclic acid ในยุโรปได้มีการใช้ฉีดใบหน้าและลดริ้วรอยในปัจจุบัน FDA สหรัฐอเมริกาได้ประกาศให้ scaptra สามารถใช้ฉีดโดยถูกกฎหมายในคนไข้ที่ติดเชื้อ HIV แล้วมีใบหน้าตอบ - B ซิลิโคนเหลว
ถือเป็นสารที่มีการนำมาฉีดเพื่อเสริมแต่ง ซิลิโคนเหลวถือเป็นสารแปลกปลอม เมื่อฉีดเข้าร่างกายแล้วจะมีการอักเสบอย่างต่อเนื่องเพื่อกำจัดสารแปลกปลอม และซิลิโคนเหลวจะไหลไปตามแรงโน้มถ่วงของโลก โดยที่ซิลิโคนที่หน้าผากจะไหลมาที่เปลือกตาบน, สารที่อยู่ที่โหนกแก้ม จะไหลมาที่ด้านข้างของคาง ทำให้มีลักษณะแก้มย้อยเหมือนคนสูงอายุ จากประสบการณ์ที่เคยดูแลคนไข้ พบว่า ซิลิโคนเหลวเป็นสารที่ฉีดแล้วสามารถเสริมใบหน้าได้สวยงามมาก แต่จะมีอายุการใช้งานประมาณ 8 เดือน – 1 ปี โดยที่หลังจาก 1 ปี สารพวกนี้จะไหลไปที่ต่างๆ
กลุ่ม 4 สารธรรมชาติจากร่างกาย
ไขมัน ซึ่งจะดูดออกทางผิวหนังหรือหน้าขาเพื่อใช้ฉีดในส่วนต่างๆ
จากข้อมูลข้างต้น จะเห็นว่า สารฉีดตกแต่ง ที่มีการนำมาใช้มีหลากหลาย บางชนิดมีอันตรายมากในระยะยาว โดยเฉพาะซิลิโคนเหลว นอกจากนี้ยังมีการฉีดสารอื่นๆ ที่ไม่ใช่สารสำหรับฉีดเข้าเนื้อเยื่อร่างกายโดยเฉพาะ เช่น น้ำมันพืช น้ำมันใส่ผม เป็นต้น
ดังนั้นขอแนะนำว่าการไปรับบริการฉีดสารต่างๆ ควรปฏิบัติตนดังนี้
- ในผู้ที่ไม่เคยฉีดใบหน้าเลย ควรฉีดสารกลุ่มที่ 1 ซึ่งออกฤทธิ์ไม่ถาวร ถึงแม้จะมีราคาแพงแต่ถ้าผลการฉีดไม่เป็นที่ถูกใจก็จะหายไปในระยะเวลา 1 ปี
- ถ้าฉีดสารกลุ่ม 1 แล้วพอใจ ในการฉีดครั้งที่ 2 อาจเลือกสารกลุ่มที่ 2 ซึ่งเป็นสารถาวรฉีดต่อไปได้
- สารที่ปัจจุบันมีความปลอดภัยและ FDA ของอเมริกายินยอมให้ฉีดเสริมแต่งใบหน้า ได้แก่ Collagen และ Hyaluran
- ควรปรึกษาแพทย์ที่ทำการฉีดถึง
– ชนิดของสารที่ฉีด
– ผลข้างเคียงทั้งระยะสั้นและระยะยาว
– วิธีแก้ไข สามารถดูดออกได้หรือไม่
– ระยะเวลาการดูดทำได้ภายในกี่วัน - ในกรณีที่ไม่ทราบชนิดสารที่ฉีดและต้องการฉีดมากจริงๆ แล้วไม่แน่ใจว่าเป็นซิลิโคนเหลวหรือไม่ แนะนำให้ฉีดที่บริเวณคาง จะเป็นตำแหน่งที่มีปัญหาน้อยที่สุด เนื่องจากบริเวณคาง สารที่ฉีดถ้ามีการไหลก็จะไหลลงปลายคาง ตำแหน่งที่ไม่ควรฉีดในครั้งแรก ได้แก่ หน้าผากและแก้ม เนื่องจากมีโอกาสไหลไปที่ตำแหน่งอื่นมากกว่า 80%
- ควรขอผลิตภัณฑ์ที่ฉีด , กล่องของสารที่ฉีด รวมทั้งผลิตภัณฑ์ ฉลาก
- ฉีดในสถานที่ที่มีสถานประกอบวิชาชีพที่แน่นอน ไม่ควรฉีดตามรถที่รับฉีดหรือผู้ที่ถือกระเป๋าฉีดตามบ้านและที่ต่างๆ