สาเหตุที่ทำให้เกิดนม 2 ลอน
สารบัญ
- ศัลยแพทย์วางตำแหน่งของถุงซิลิโคนได้ไม่ดี
- ฐานหน้าอกแคบเกินไป เมื่อวางถุงซิลิโคนที่มีขนาดใหญ่กว่าฐานหน้าอก จึงทำให้เกิดนมสองลอนได้
- ในกรณีที่มีหน้าอกทรง Tubular Breast จะมีฐานหน้าอกแคบ หากเสริมหน้าอกโดยใช้ถุงซิลิโคนที่มีขนาดใหญ่เกินไป มีโอกาสเกิดนมสองลอนได้
การป้องกันการเกิดปัญหานม 2 ลอน แยกได้เป็น 2 ส่วนคือ
1. ส่วนของเต้านม
A: การใส่ถุงเหนือกล้ามเนื้อ ในคนที่มีฐานเต้านมสั้นและมีความเสี่ยงกับการเกิด 2 ลอน การใส่ถุงระดับเหนือกล้ามเนื้อและพยายามไม่เปิดช่องว่างด้านล่างเกินฐานมากกว่า 2 ซม. ถึงแม้จะใส่ถุงเหนือกล้ามเนื้อ แต่ถ้าเต้านมคล้อยมากก็อาจเกิด 2 ลอนได้ พยายามเลือกใช้การเสริมเหนือกล้ามเนื้อในคนที่ต้องการใช้ถุงเต้านมขนาดใหญ่ ในเต้านมที่ฐานแคบๆและมีเนื้อเต้านมมากอยู่แล้วและอยู่ด้านล่างมากกว่าด้านบน
B: ในกรณีที่ต้องใส่ระดับใต้กล้ามเนื้อ เช่นในคนที่มีเนื้อนมบางมาก (น้อยกว่า 1 ซม. ควรพยายามเลือกถุงที่มีขนาดเล็ก แต่ถ้าต้องการขนาดใหญ่ควรเลือกถุงเต้านมทรงสูงเพื่อให้ฐานของถุงแคบลง เพื่อที่ขอบของถุงจะได้ไม่เกินฐานของเต้านมลงไปมาก
ในกรณีที่ฐานเต้านมสั้นมากๆแต่จำเป็นต้องใส่ถุงใต้กล้ามเนื้อมีวิธีการแก้ไขอาจทำได้โดย
1. การผ่าตัดเทคนิค 2 ระดับ (Dual Plane ) คือด้านบนอยู่ใต้กล้ามเนื้อ ด้านล่างเป็นเหนือกล้ามเนื้อ
2. การขยายเนื้อเต้านมลงล่างทำได้โดยการผ่าตัดขยายฐานของเต้านมให้เนื้อเต้านมลงมาปิดถุงด้านล่าง โดยย้ายเนื้อเต้านมส่วนที่ติดกระดูกซี่โครงต่อกับฐานเต้านมเดิม ทำให้เป็นฐานเต้านมใหม่ที่ต่ำกว่าเต้านมเดิม
3. เพิ่มเนื้อเต้านม โดยเพิ่มขนาดของเนื้อเต้านม ใช้ส่วนที่ต่ำกว่านเต้านมเดิมวิธีการที่ใช้ทั่วไปทำโดยการฉีดไขมันอย่างไรก็ตามมักต้องทำร่วมกับการตัดพังผืด ส่วนของผิวหนังบริเวณฐานเต้านมเดิม เพื่อให้ผิวหนังบริเวณนั้นยืดออกมาได้
2. ส่วนของถุงเต้านม
ในกรณีที่เนื้อเต้านมส่วนที่อยู่ใต้หัวนมที่มีขนาดสั้นมาก และต้องการใส่ถุงขนาดใหญ่ ควรพิจารณาถุงทรงสูงมากกว่า ทรงกลางหรือทรงเตี้ย โดยทั่วไปทั้งถุงทรงกลมและทรงหยดน้ำก็จะมีทรงสูงให้เลือก แต่ถุงทรงกลมบางบริษัทจะมีทรงสูงพิเศษ (Ultrahigh) เช่น Mentor , Sebbin, EuroSilicone หรือทรง Maxima ของ Silimed ซึ่งอาจพิจารณาใช้ในฐานที่ต้องการถุงขนาดใหญ่แต่มีฐานนมสั้นมาก
การแก้ไขปัญหานม 2 ลอนที่คลินิก อาจทำได้โดยเทคนิคต่างๆ ดังนี้
1. การฉีดไขมัน
2. การผ่าตัดแก้ไขและเย็บฐานนมขึ้น
3. การผ่าตัดแก้ไข และเลาะเนื้อตามเต้านมลงมา
4. การผ่าตัดย้ายตำแหน่งของถุงจากเหนือกล้ามเนื้อ
5. การผ่าตัดเปลี่ยนถุงร่วมกับการฉีดไขมัน
การปรึกษาแพทย์ก่อนผ่าตัด
ในกรณีที่เกิดปัญหา 2 ลอน และต้องการแก้ไข ก่อนที่จะปรึกษาควรต้องให้ดูขนาดของถุงเต้านมเดิม และทรงเพื่อประกอบการพิจารณาว่าต้องเปลี่ยนถุงเป็นทรงใหม่หรือไม่ การปรึกษาประกอบด้วย
ถุงเต้านม
– เลือกทรงกลมหรือหยดน้ำ
– เปลี่ยนเป็นทรงสูงหรือสูงมาก
– ผิวเรียบหรือผิวทราย เนื่องจากผิวเรียบมีโอกาสเคลื่อนได้มากกว่า โอกาศที่จะเกิดถุงเต้านมเคลื่อนต่ำกว่าฐานอาจมีมากกว่าผิวทราย
แผล
– ถ้าต้องการขยายเนื้อเต้านมลงล่าง แผลที่ทำได้ดีมาก คือแผลใต้ราวนม แต่ถ้าต้องการลดขนาดปานนมหรือ แก้ปัญหาของ Tubular Breast อาจต้องใช้แผลปานนม
ฐานเต้านม
– ถ้าต้องการให้ฐานเต้านมสูงขึ้นไปอยู่ที่ฐานเดิมการผ่าตัดมักต้องทำการตัดเย็บแคปซูลด้านล่าง ให้ช่องว่างด้านล่างหายไป โดยถุงเต้านมจะอยู่สูงขึ้นไป อยู่ที่ฐานเดิม
– ถ้าฐานเดิมสั้นมาก เช่นจากรูปร่างเดิมที่ฐานสั้นมากทรงเต้านมก็อาจไม่สวย ถ้าใช้ฐานเดิม ก็อาจจำเป็นต้องเพิ่มเนื้อเต้านม ในส่วนของฐาน ซึ่งทำได้ 2 แบบคือ การฉีดไขมัน หรือการผ่าตัดขยายฐานเต้านมลงมา
ระดับการใส่ถุงเต้านม
ในคนที่มีเนื้อเต้านมมากอยู่แล้ว และมีเนื้อเต้านมส่วนล่างยื่นออกมามาก อาจย้ายระดับถุงจากใต้กล้ามเนื้อไปเหนือกล้ามเนื้อ
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
- งดสูบบุหรี่ 4 – 6 สัปดาห์
- ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2 สัปดาห์ ก่อนผ่าตัด
- งดวิตามิน หรือยาสมุนไพรทุกชนิด กระเทียม ใบแปะก๊วย 2 – 4 สัปดาห์
- งดยากลุ่ม แอสไพริน ยาแก้ปวด ยาต้านอาการซึมเศร้า ยากระตุ้นประสาท 2 – 4 สัปดาห์
- งดทานยาลดน้ำหนัก 4 สัปดาห์
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือมีความเสี่ยงต่อผลเลือด ต้องมีใบรับรองแพทย์จากแพทย์ที่ท่านรักษา เพื่อยืนยันการผ่าตัด
- ผู้ที่คลำพบก้อนบริเวณเต้านมต้องมีผลการตรวจชัดเจน และควรผ่าตัดเอาก้อนออก พร้อมผลตรวจสุขภาพว่าไม่ใช่เนื้อร้าย
- ผู้ที่มีผลเลือด HIV เป็นบวก ต้องมีผล CD4 มาพร้อมกับใบรับรองแพทย์ที่ท่านรักษา โดยราคาค่าผ่าตัดผู้ที่มีผลเลือด HIV เป็นบวก จะเพิ่มอีก 100%
- ควรหลีกเลี่ยงการผ่าตัดในช่วงมีประจำเดือน เนื่องจากจะทำให้ดูแลตัวเองได้ยากขึ้น
- ควรลาหยุดงานประมาณ 1 – 2 สัปดาห์
ขั้นตอนการผ่าตัด
การแก้ไขปัญหานม 2 ลอนที่คลินิก อาจทำได้โดยเทคนิคต่างๆ ดังนี้
- การฉีดไขมัน
- การผ่าตัดแก้ไขและเย็บฐานนมขึ้น
- การผ่าตัดแก้ไข และเลาะเนื้อตามเต้านมลงมา
- การผ่าตัดย้ายตำแหน่งของถุงจากเหนือกล้ามเนื้อ
- การผ่าตัดปลี่ยนถุงร่วมกับการฉีดไขมัน
เทคนิคที่ 1 การฉีดไขมัน
- อาจทำโดยการฉีดยาชาได้ ไม่ต้องดมยาสลบ
- ไขมันที่นำมาฉีด มักใช้จากหน้าท้องหรือต้นขาด้านในของคนไข้ หรือในบางกรณีอาจใช้ต้นขาด้านนอก
- ฉีดยาชาผสมอดีนาลีนบริเวณที่จะดูดไขมัน
- ดูดไขมันโดยใช้หัวดูดไขมันขนาดเล็ก
- ขยายพังผืดบริเวณฐานเดิมของเต้านม หรือส่วนของเต้านมใต้ฐานนมเดิม
- ฉีดไขมันจนได้ขนาดเพียงพอ
- เย็บปิดแผลโดยใช้ไหมขนาดเล็ก
เทคนิคที่ 2 เปลี่ยนถุงเต้านมและขยับฐานนมขึ้น
ในกรณีที่ต้องการใส่ถุงขนาดใหญ่กว่าเดิม แต่ต้องแก้ปัญหา 2 ลอน โดยใช้ถุงเต้านมทรงสูง โดยไม่ผ่าตัดเลื่อนเนื้อเต้านม วิธีการผ่าตัดทำได้โดยแผลใต้ราวนมเท่านั้น เพราะเป็นแผลที่แก้ไขปัญหาที่ฐานนมได้ดีที่สุด
- การผ่าตัดอาจทำได้โดยการดมยาสลบหรือฉีดยาชาได้ ในคนที่ไม่ต้องการเปลี่ยนถุงเต้านม
- ฉีดยาชาบริเวณแผลใต้ราวนมและบริเวณที่เป็น 2 ลอน
- เปิดแผลใต้ราวนม
- ตกแต่งและตัดพังผืดบริเวณใต้ราวนมจนได้ตำแหน่งใหม่ที่ต้องการ
- เย็บปิดช่องว่าง บริเวณช่องใต้ฐานเต้านมเดิม
- เปลี่ยนถุงเต้านม ในกรณีที่ต้องการถุงใหม่
- เย็บปิดแผล
เทคนิคที่ 3 การผ่าตัดเพื่อย้ายเนื้อเต้านมลงมา
ในคนที่มีฐานเต้านมสั้นมาก และถุงที่ใช้แม้ว่าเปลี่ยนเป็นทรงสูงหรือลดขนาดถุงเล็กลง ยังเกินฐาน อาจจำเป็นต้องใช้การผ่าตัดเนื้อ ขยับเนื้อเต้านมด้วย ในกรณีนี้การผ่าตัดจะใช้แผลใต้ราวนม หรือแผลปานนมก็ได้
- การผ่าตัดทำโดยการดมยาสลบเท่านั้น
- เปิดแผลใต้ราวนม ในตำแหน่งที่ต้องการให้ย้ายขอบล่างใหม่ของเต้านม
- เปิดช่องว่างเพื่อใส่ถุงเต้านม และเปิดช่องว่างในช่องที่ใส่ถุงเหนือกล้ามเนื้อ
- เปิดแผลที่ด้านล่างของเต้านม และย้ายเนื้อเต้านมลงมา
- เย็บเนื้อเต้านมที่ยึดออกมาเป็นฐานเต้านมใหม่
- ใส่ถุงเต้านมที่เลือกไว้ในตำแหน่งเหนือหรือใต้กล้ามเนื้อ จัดวางให้ได้รูปทรงที่สวยงาม
- เย็บปิดแผล
- โดยทั่วไปจะคลำได้ขอบไม่สม่ำเสมอกัน บริเวณฐานเต้านมใหม่ ใช้เวลาหลังผ่าตัด 2-3 เดือนอาการเหล่านั้นก็จะหายไป
เทคนิคที่ 4 การย้ายต่ำแหน่งถุงมาเหนือกล้ามเนื้อ
ในกรณีที่มีเต้านมขนาดใหญ่อยู่แล้ว การผ่าตัดอาจทำแค่การย้ายระดับถุงมาเหนือกล้ามเนื้อ ซึ่งวิธีการผ่าตัดทำได้ง่ายและได้ดีในคนที่มีเนื้อเต้านมมากพออยู่แล้ว
- การผ่าตัดต้องทำโดยดมยาสลบเท่านั้น ต้องงดน้ำงดอาหารอย่างน้อย 6 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด
- การผ่าตัดอาจจะทำแผลรักแร้,ปานนม,ราวนมก็ได้
- เปิดแผลผ่าตัด และดึงถุงเต้านมเดิมออก
- เปิดช่องว่างระดับเหนือกล้ามเนื้อ โดยไม่ขยายช่องว่างบริเวณฐานมากเกินไป
- ใส่ถุงเต้านมในช่องว่างใหม่ (เหนือกล้ามเนื้อ)
- เย็บปิดแผล
เทคนิคที่ 5 การผ่าตัดเปลี่ยนถุงร่วมกับการฉีดไขมัน
การเปลี่ยนถุงและฉีดไขมันตำแหน่งฐานนม ในกรณีที่ไม่สามารถขยับฐานเต้านมขึ้นมาได้มาก อาจทำการฉีดไขมันเพิ่มในเวลาที่ผ่าตัดเลยได้
- เปิดแผลที่ดูดไขมัน และดูดไขมันจนได้ประมาณที่ต้องการ
- ฉีดไขมันในตำแหน่งฐานล่างเต้านม ร่วมกับการตัดพังผืดที่ใต้ราวนม
- เปิดแผลเต้านม อาจทำแผลปานนม หรือใต้ราวนมก็ได้ แต่ต้องขยับฐานเต้านมด้วยต้องเปิดแผลราวนมเท่านั้น
- ผ่าตัดเอาถุงเต้านมออก และใส่ถุงใหม่
- ตรวจเช็ครูปทรงของเต้านมอีกครั้ง
- ถ้ารูปทรงยังไม่สวยงามอาจต้องฉีดไขมันเพิ่มหรือตัดพังผืดเพิ่ม
- เมื่อได้รูปทรงที่ต้องการ และทำการเย็บปิดแผลเต้านม ,แผลฉีดไขมัน และแผลดูดไขมัน
การดูแลหลังผ่าตัด
เทคนิคที่ 1
- ประคบเย็นที่เต้านมและบริเวณที่ดูดไขมันประมาณ 1-2 วัน
- ทานยาตามคำสั่งแพทย์
- บริเวณรอบฐานนมจะมีแผลเล็กๆ หรือแผลจากการขยายพังผืด ให้ใช้น้ำเกลือเช็ดแผล เช้า- เย็น และทาแผลด้วยขี้ผึ้งคอแรมออยเมน จนถึงวันตัดไหม
- ตัดไหมประมาณ 5 วัน
เทคนิคที่ 2-5
- แผลผ่าตัด: แผลหลังผ่าตัดจะเย็บไว้ด้วยไหมที่ไม่สลาย หลังการผ่าตัด 5 วัน แพทย์จะนัดมาตัดไหม ควรมาตัดไหมตามกำหนดของแผลเพื่อลดการเกิดแผลเป็นจากไหม ทำความสะอาดแผลโดยการเช็ดด้วยเบตาดีน หรือน้ำเกลือสะอาด วันละ 1 – 2 ครั้ง เช้า – เย็น ควรงดการอาบน้ำโดยวิธีทำความสะอาดโดยการเช็ดตัวท่อนบนจนกว่าจะตัดไหม
- การรับประทานอาหารและยา: ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และรับประทานยาตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด งดเว้นการดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ และอาหารหมักดอง จนกว่าแผลจะหายดี
- การจัดท่า: ควรนอนยกศีรษะสูง หนุนหมอน 2 ใบ และควรนอนในท่านอนหงาย ไม่ควรนอนตะแคงหรือนอนคว่ำในช่วง 1 – 2 สัปดาห์แรกหลังผ่าตัด เนื่องจากท่าหนอนหงายจะทำให้ถุงซิลิโคนอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
- การทำกิจวัตรประจำวัน: งดเว้นการอุ้มเด็ก และทำงานบ้านประมาณ 1 สัปดาห์ ไม่ควรยกของหนักเกิน 1 กก. ใน 3 สัปดาห์แรก สามารถขับรถได้หลัง 1 สัปดาห์ไปแล้ว เนื่องจากหลังผ่าตัดใหม่ๆ ยังทำให้หมุนพวงมาลัยรถได้ลำบาก
- การมีเพศสัมพันธ์: สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ในช่วงสัปดาห์แรก แต่ควรระวังการสัมผัสหน้าอก
- รอยแผลเป็น: สามารถทายาลดรอยแผลเป็นได้ หลังจากแผลผ่าตัดหายสนิทดีแล้ว ควรทาครีมกันแดดควบคู่ไปด้วย จะทำให้แผลเป็นจางเร็วขึ้น
- การใช้ยกทรง: ให้ใช้ยกทรงแบบไม่มีโครง หรือ Sport Bra ประมาณ 1 เดือน จนกว่าเต้านมจะคล้อยลงสวย จึงเริ่มใช้แบบดันทรง หรือแบบมีโครงได้ หรือตามแต่ดุลยพินิจของแพทย์พิจารณา
- การออกกำลังกาย: งดออกกำลังกายในช่วง 3 สัปดาห์แรก เนื่องจากยังเป็นช่วงที่ทำให้เลือดออกได้ สามารถออกกำลังกายได้ปกติ หลังจาก เดือนไปแล้ว