Scroll Top
pectoralis major
เสริมกล้ามเนื้อหน้าอกในเพศชาย

กล้ามเนื้อหน้าอกเป็นส่วนที่ทำให้ทรวดทรงผู้ชายดีขึ้นมา ในผู้ชายบางคนถึงจะมีการออกกำลังกายกล้ามเนื้อหน้าอก (Pectoralis Major) สม่ำเสมอ แต่ก็ไม่สามารถทำให้กล้ามเนื้อมัดนี้มีขนาดใหญ่ได้และแข็งแรงขึ้น ถึงแม้นักเพาะกายบางคน ก็พบว่าบางครั้งไม่สามารถออกกำลังกายให้กล้ามเนื้อมัดนี้ใหญ่ขึ้นได้มาก กล้ามเนื้อหน้าอก เป็นกล้ามเนื้อสำคัญที่ทำให้รูปร่างและสัดส่วนของผู้ชายดูดีขึ้นมาก รวมทั้งช่วยให้การสวมใส่ เสื้อผ้าบางแบบดูดีขึ้นมาก ในผู้ที่ประสบปัญหาไม่สามารถเสริมสร้างกล้ามเนื้อหน้าอกด้วยการออกกำลังกาย อาจพิจารณาการเสริมกล้ามเนื้อหน้าอกซึ่งเป็นการผ่าตัดที่ทำให้รูปร่างหน้าอก นูนขึ้นและดูแข็งแรงเหมือนหน้าอกธรรมชาติของผู้ที่ออกกำลังกายสม่ำเสมอ โดยที่หลังผ่าตัดยังสามารถแสดงการคลายตัวและการหดตัวของกล้ามเนื้อหน้าอกเหมือนหน้าอกนักเพาะกาย

การผ่าตัดเสริมหน้าอกเพศชาย นอกจากจะทำให้การเสริมสร้างกล้ามเนื้อหน้าอกของคนทั่วไปแล้ว ยังช่วยแก้ปัญหาหน้าอกเล็กลงจากอุบัติเหตุหรือความผิดปกติแต่กำเนิดในบาง กรณี เช่น ภาวะที่เส้นประสาทในสันหลังผิดปกติแล้วทำให้กล้ามเนื้อหน้าอกไม่มีการเติบโต ขึ้น ภาวะอกนูนหรือภาวะอกบุ๋ม การเสริมหน้าอกช่วยให้ความผิดปกติในภาวะเหล่านี้ดูดีขึ้น

ในปัจจุบันผู้ชายมีความใส่ใจในเรื่องรูปร่างหน้าตามากขึ้น การผ่าตัดเสริมกล้ามเนื้อหน้าอกเพศชายจึงมีการผ่าตัดกันมากขึ้นทำให้เทคนิค และวัสดุที่ใช้มีคุณภาพดีขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้การผ่าตัดมีความปลอดภัยมาก นอกจากนั้นแล้วการผ่าตัดโดยใช้วัสดุเป็นแผ่นหรือถุงเจล เป็นการผ่าตัดที่แก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ถ้าไม่ชอบหรือไม่พอใจก็สามารถที่จะเอา ออกได้ หน้าอกก็จะกลับมาเหมือนปกติก่อนการเสริมกล้ามเนื้อหน้าอกเพศชายหน้าอกหลัง การผ่าตัดจะมี ความนิ่มและรูปร่างจะแตกต่างจากหน้าอกเพศหญิงโดยที่หน้าอกเพศชายหลังการผ่า ตัด จะค่อนข้างแข็งแรงไม่นิ่มและจะมีรูปร่างแบนเหมือนกล้ามเนื้อหน้าอก ไม่มีการคล้อย ซึ่งต่างจากการเสริมเต้านมเพศหญิงผลที่ได้จะได้เต้านมที่ใหญ่คล้อยและนิ่ม เวลาสัมผัส ในสังคมปัจจุบันบางคนอาจไม่มีเวลาออกกำลังกายมากพอเพราะต้องใช้ เวลาในการทำงานหรือออกงานสังคมบ่อยการยกน้ำหนักหรือการฝึกกล้ามเนื้อจนรูป ร่างดีอาจทำไม่ได้ในบางคนซึ่งมีงานประจำมาก อาจเลือกใช้การผ่าตัดชนิดนี้เพื่อเสริมสร้างหน้าอกได้

การเสริมกล้ามเนื้อหน้าอก อาจช่วยแก้ปัญหาของหน้าอกที่เล็กตั้งแต่กำเนิดหรือหลังจากอุบัติเหตุ

1. ซิลิโคนแผ่น

เป็นซิลิโคนเหมือนกับซิลิโคนที่ ทำจมูกแต่มีความกว้างและยาวมากกว่าเป็นซิลิโคนแท่งที่มีความนิ่มมากเป็นซิลิโคนแบบที่ผลิตเพื่อใช้ทางการแพทย์ สามารถพับงอไปมาได้อาจจะมีสีใส แต่โดยทั่วไปนิยมสีขาวขุ่นมากกว่า ยางซิลิโคนที่ใช้ในเพศชายจะมีความแข็งมากกว่าถุงซิลิโคนที่ใช้เสริมเต้านม ทำให้หลังผ่าตัดจะมีลักษณะเหมือนกล้ามเนื้อที่แข็งแรง

บริษัทผู้ผลิตจะผลิตแบบซิลิโคนเป็นขนาดต่างๆที่แตกต่างกัน แต่ถ้าในคนที่หน้าอกใหญ่ผิดปกติหรือสูงผิดปกติ สามารถสั่งทำพิเศษได้ในขณะที่ปรึกษาก่อนการผ่าตัด แพทย์จะทำการวัดขนาดของแผ่นซิลิโคนที่จะใช้แล้วเปรียบเทียบให้ได้ขนาดใกล้ เคียงกับหน้าอก โดยทั่วไปก่อนการใส่แผ่นซิลิโคนมักจะต้องทำการเหลาซิลิโคนเพิ่มเพื่อให้ได้ รูปร่างพอดีกับหน้าอกแต่ละคน

2. ถุงซิลิโคนเจล

เป็นถุงซิลิโคนเหมือนถุงซิลิโคน ที่ทำหน้าอกแต่เจลที่บรรจุเป็นเจล ชนิดเหนียวและรูปร่างของถุง จะค่อนข้างแบน-และมีรูปร่างค่อนข้างเป็นสี่เหลี่ยมคล้ายกับรูปร่างของกล้าม เนื้อหน้าอก ถุงซิลิโคนเสริมหน้าอกเพศชาย มักทำเป็นผิวทรายไม่ค่อยทำเป็นผิวเรียบ มีการกำหนดทิศทางการวางตำแหน่งอย่างชัดเจน โดยที่จะต้องวางให้ถูกตำแหน่งของกล้ามเนื้อหน้าอก ตำแหน่งของการวางจะวางใต้กล้ามเนื้อเท่านั้น

ถุงซิลิโคนเจลมีการทำเป็นขนาดต่างๆกัน ดังนั้นก่อนการผ่าตัด ขณะที่ทำการปรึกษาแพทย์ต้องวัดขนาดความกว้างยาวของกล้ามเนื้อหน้าอก เพื่อเลือกขนาดของถุงที่เหมาะสม โดยทั่วไปถุงเจลจะมีความสูงพอๆกันไม่แตกต่างกันมาก

ข้อดีของถุงเจลคือจะนิ่มกว่าแผ่นซิลิโคน และเวลาผ่าตัดจะใส่ถุงได้ง่ายกว่า แต่ว่าไม่สามารถเหลาให้มีรูปร่างพอดีกับหน้าอกของแต่ละคนได้ สำหรับแผ่นซิลิโคน การใส่ใต้กล้ามเนื้ออาจยากกว่าเล็กน้อย ก่อนใส่ต้องเหลาให้มีขนาดพอดีกับหน้าอกเพราะถ้าขนาดกว้างหรือยาวเกินไปจะทำ ให้คลำได้ขอบเขตของแผ่นซิลิโคน

ซิลิโคนที่ใช้กันส่วนใหญ่ มี 3 ยี่ห้อ คือ

1. Silimed (ซิลิโคนเจล) ผลิตจากประเทศบราซิล มีทั้งผิวเรียบ (Smooth) และผิวทราย (Textured)

2. Implantech (ซิลิโคนแผ่น) ผลิตจากประเทศอเมริกา มี 3 ขนาด

3. Hanson (ซิลิโคนแผ่น) ผลิตจากประเทศอเมริกา มี 3 ขนาด

ซิลิโคนแผ่นเป็นวัสดุ เสริมสร้างกล้ามเนื้อที่นิยมใช้กันในประเทศอเมริกา เพราะคณะกรรมการอาหารและยาของอเมริกาไม่ยอมให้ใช้ถุงเจล ในการผ่าตัดแพทย์จึงใช้ได้เฉพาะแผ่นซิลิโคนในประเทศอเมริกาใต้จะใช้ถุงเจลใน การเสริมกล้ามเนื้อหน้าอก เนื่องจากกฎหมายยินยอมให้ใช้วัสดุนี้ได้ สำหรับในประเทศไทยมีผู้นำเข้าถุงเจลมาใช้บ้างในบางขนาดแต่ยังไม่มีการนำเข้า แผ่นซิลิโคน ดังนั้น ถ้าต้องการใช้ซิลิโคนแผ่นจะต้องสั่งซื้อโดยตรงกับบริษัทผู้ผลิตจะต้องใช้ เวลานานกว่ามาก ถ้าต้องการซิลิโคนแผ่นจะต้องปรึกษาแพทย์ก่อนการผ่าตัดประมาณ 1 – 2 เดือน เทคนิคการผ่าตัดไม่ว่าอะไรซิลิโคนชนิดใด ต้องทำโดยการดมยาสลบเท่านั้น และการเปิดแผลจะเข้าทางรักแร้เท่านั้น

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดเสริมกล้ามหน้าอก

  1. งดอาหารและน้ำอย่างน้อย 8 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัด
  2. ตรวจเลือดดูระบบโลหิตการทำงานของไตเอ็กซเรย์ปอดและตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจถ้าอายุมากกว่าหรือเท่ากับ 35 ปี
  3. ควรพาเพื่อนมาด้วยในวันผ่าตัด
  4. โกนขนรักแร้ในวันที่มารับการผ่าตัด
  5. ก่อนผ่าตัด 1 วัน โทรนัดดูเวลาผ่าตัด กับทางคลินิกว่าทำผ่าตัดเวลาเช้าหรือเย็น ถ้าผ่าตัดเวลาเช้าให้งดน้ำและอาหารหลังเที่ยงคืน ถ้าผ่าตัดเวลาเย็นให้งดอาหารและน้ำ 8 ชั่วโมง ก่อนเวลาผ่าตัด
  6. ควรเผื่อเวลามาเข้าพักโรงพยาบาลก่อนเวลาผ่าตัดประมาณ 3 – 4 ชั่วโมง เพื่อเตรียมทำประวัติและเตรียมตัวก่อนการผ่าตัด
  7. งดดื่มเหล้าและงดสูบบุหรี่ 2 อาทิตย์ก่อนการผ่าตัด การสูบบุหรี่ ทำให้มีเสมหะในปอดมากและอาจทำให้เกิดปัญหาในการดมยาสลบ และทำให้แผลผ่าตัดหายช้า การพักฟื้นก็จะใช้เวลานานขึ้น
  8. งดยาแก้ปวดกลุ่ม แอสไพริน บลูเฟ่น วิตามิน E และอาหารเสริมที่มีส่วนประกอบของสาหร่าย 2 อาทิตย์ ก่อนการผ่าตัด เนื่องจากกลุ่มยานี้ทำให้เลือดหยุดยากและเกิดอาการเขียวช้ำได้บ่อยๆหลังผ่า ตัด
  9. ของมีค่า เช่น แหวน นาฬิกา เครื่องประดับ ควรถอดทิ้งไว้ที่บ้าน ไม่ควรนำมาโรงพยาบาล เพราะหลังผ่าตัด ไม่สามารถดูแลได้สะดวก เตรียมเงินสดมาสำหรับพอใช้ประมาณ 1 – 2 วัน
  10. ถ้าเป็นคนที่เคยมีปัญหาเรื่องแผลฟกช้ำหรือเขียวง่าย ควรแจ้งให้ทราบก่อนการผ่าตัด
  11. ในคนที่อายุมากกว่า 40 ปี ควรเจาะเลือดและตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ อย่างน้อย 1 อาทิตย์ ก่อนวันผ่าตัด
  12. เพื่อให้แผลหายไว อาจทานวิตามิน C ประมาณ 2 อาทิตย์ก่อนวันผ่าตัด กรณีนี้อาจจะรับประทานต่อหลังผ่าตัด
  13. ในวันก่อนผ่าตัดหรือเช้าวันผ่าตัดมีไข้หรือไม่สบายให้แจ้งแพทย์ให้ทราบทันทีเพื่อที่อาจต้องเลื่อนการผ่าตัด
  14. ใส่เสื้อผ้าหลวมๆ ใส่สบายในวันผ่าตัดควรเป็นเสื้อที่ติดกระดุมหน้าไม่ควรเป็นเสื้อยืดที่ต้องใส่ผ่านคอ

ขั้นตอนการผ่าตัดเสริมกล้ามหน้าอก

  1. ก่อนการผ่าตัดแพทย์จะตกลงถึงขนาดและรูปร่างของถุงหรือแผ่นซิลิโคนที่จะใส่
  2. การผ่าตัดทำโดยการดมยาสลบ
  3. แผลผ่าตัดมักจะลงแผลผ่าตัดที่รักแร้ แผลจะเห็นไม่ชัดหลังจากที่ขนรักแร้ขึ้น
  4. สร้างช่องว่างใต้กล้ามเนื้อหน้าอกถ้าใช้แผ่นซิลิโคนอาจทำการเหลาแผ่นซิลิโคนให้เข้ารูปกับหน้าอกแต่ละคน หลังจากสร้างช่องว่างแล้ว
  5. ใส่แผ่นหรือถุงซิลิโคน ในช่องว่างที่สร้างไว้แล้วใต้กล้ามเนื้อหน้าอกเพื่อลดโอกาสการมองเห็นของขอบถุงหรือแผ่นซิลิโคน
  6. จัดวางตำแหน่งถุงหรือแผ่นซิลิโคนให้เหมาะสมและใกล้เคียงกันทั้ง 2 ข้าง
  7. เย็บปิดแผลโดยใช้ไหมละลายเย็บพังพืดกล้ามเนื้อ เย็บปิดผิวหนังโดยใช้ไหมที่ไม่ละลาย
  8. ปิดแผลโดยใช้ผ้าปิดแผลกดที่บริเวณรักแร้ เพื่อลดปัญหาเลือดตกค้างภายในช่องว่างของรักแร้
  9. พันผ้ายืดบริเวณหน้าอกเพื่อลดการเสียเลือด ลดบวมและช่วยยึดให้ซิลิโคนเสริมกล้ามเนื้อหน้าอกอยู่กับที่แนะนำให้ใส่ผ้า ยืดรัดหน้าอกไว้ประมาณ 3 อาทิตย์
  10. การผ่าตัดใช้เวลาประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง

การดูแลหลังการผ่าตัดเสริมกล้ามหน้าอก

  1. ควรเตรียมหยุดงาน 5 – 7 วัน
  2. ห้ามยกแขนสูงในช่วง 1 สัปดาห์ แรกหลังการผ่าตัด
  3. วันแรกหลังผ่าตัด แพทย์จะทำการเปิดแผลแต่ยังให้พันหน้าอกด้วยผ้ายืดต่ออีก 1 สัปดาห์ เพื่อลดอาการบวม
  4. หลังจากครบ 1 สัปดาห์ สามารถเริ่มยกแขนสูงได้อย่างช้าๆ โดยทั่วไปการขยับแขนสามารถทำได้จนเกือบปกติในอาทิตย์ที่ 2 – 3 สามารถขยับแขนได้เหมือนปกติภายใน 1 เดือน
  5. งดการออกกำลังกายที่จะทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นประมาณ 3 – 6 สัปดาห์
  6. วันแรกหลังผ่าตัดควรนอนพักให้มากที่สุด ลุกเดินเฉพาะเวลาที่ไปห้องน้ำ
  7. โดยทั่วไปจะให้นอนที่โรงพยาบาล 24 ชั่วโมง โดยนอนยกศีรษะสูงหนุนหมอน 2 ใบ ควรมีเพื่อนขับรถกลับบ้านให้ หลังจากออกจากโรงพยาบาล
  8. ควรทานยาตามที่แพทย์สั่งเท่านั้น
  9. ผ้าพันหน้าอกควรพันไว้ตลอดเวลา ยกเว้นเวลาที่ต้องอาบน้ำ
  10. โดยทั่วไปจะนัดตัดไหม ประมาณ 5 วันและจะนัดตรวจอีกประมาณ 1 อาทิตย์ , 4 อาทิตย์ , 3 เดือน , 6 เดือน
  11. ห้ามให้แผลโดนน้ำจนกว่าจะตัดไหม
  12. ประคบเย็นบริเวณหน้าอกช่วยให้ลดอาการบวมได้
  13. สามารถทำกิจกรรมตามปกติเมื่อ 6 อาทิตย์
  14. ห้ามยกของหนักในช่วง 3 สัปดาห์แรก
  15. แผลเป็นที่รักแร้มักเห็นชัดในช่วงแรก อาจต้องใช้มือนวดแผลเป็นให้นิ่มขึ้นโดยทั่วไปหลัง 2 เดือนแผลจะมองเห็นไม่ชัด
  16. หากมีปัญหาอื่นๆ เช่น บวมมากหรือมีเลือดออกผิดปกติ ให้ติดต่อแพทย์โดยทันที

หมายเหตุ

  • อาการปวดมักมีมากในวันแรกแต่ในวันที่ 2 – 3 อาการปวดจะน้อยลงมากๆ
  • อาการบวมเขียวจะยุบลงในเวลา ประมาณ 1 อาทิตย์
  • หลังผ่าตัดห้ามใช้ แอสไพรินเป็นยาแก้ปวดเพราะจะทำให้เลือดออกและเกิดอาการเขียวมากขึ้น

ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นหลังการผ่าตัดเสริมกล้ามหน้าอก

  1. เลือดออกหลังผ่าตัดทำให้มีอาการเขียวช้ำที่หน้าอก การป้องกันทำโดยพันผ้ารัดหน้าอก และงดแอสไพรินหลังการผ่าตัด
  2. การเคลื่อนของถุงหรือแผ่นซิลิโคน ป้องกันโดยไม่ออกกำลังกายเร็วเกินไป และพันผ้ารัดหน้าอกหลังการผ่าตัด ประมาณ 3 อาทิตย์
  3. การสูบบุหรี่มีผลต่อการหายของแผลเพราะบุหรี่จะลดการไหลเวียนโลหิตและลด ออกซิเจนในเลือดทำให้แผลหายช้า หรืออาจทำให้แผลแยกหรือติดเชื้อได้ ควรงดสูบบุหรี่ก่อนและหลังการผ่าตัด
Privacy Preferences
When you visit our website, it may store information through your browser from specific services, usually in form of cookies. Here you can change your privacy preferences. Please note that blocking some types of cookies may impact your experience on our website and the services we offer.