Scroll Top
ลดขนาดหน้าอก

ลดขนาดเต้านม

การลดขนาดของเต้านม แบ่งลักษณะเต้านมที่มีปัญหา ดังต่อไปนี้

1. ขนาดเต้านมมีขนาดใหญ่โดยเป็นเนื้อต่อมเต้านมล้วน ๆ มีลักษณะตั้งเต้าได้รูปทรงผิวหนังไม่หย่อนยานมาก มักเป็นในกลุ่มวัยรุ่น
2. เนื้อเต้านมเหลวหย่อนยานและไม่เต่งตึง อาจจะเกิดจากอายุมากขึ้นหรือผ่านการมีบุตรมาหลายคน ทำให้หน้าอกใหญ่ขึ้นและคล้อยลงมากกว่าปกติ

การมีเต้านมขนาดใหญ่ ทำให้เข้าสังคมได้ยาก รวมทั้งเลือกเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายได้ยาก เต้านมขนาดใหญ่ทำให้ผู้ป่วยต้องแบกรับน้ำหนักหน้าอกมาก ทำให้ปวดไหล่และปวดหลังได้

เทคนิคที่ 1 ลดขนาดเต้านมโดยเปิดแผลรอบฐานนม

ลดขนาดเต้านมลดขนาดเต้านมโดยเปิดแผลรอบฐานนม วิธีนี้จะมีรอยหยักของการเย็บรอบฐานนมในระยะแรก ซึ่งจะดีขึ้นและหายไปในเวลา 3 – 6 เดือน วิธีนี้ทำให้แผลอยู่รอบฐานนมเห็นแผลเป็นไม่ชัด แต่จะมีลักษณะเต้านม เป็นแบบรูปโดนัทหรือทรงรูปมะเขือเทศ เพราะจะมีรอยบุ๋มลงตรงกลาง เพื่อที่จะแก้ปัญหาเรื่องทรงของเต้านม ในผู้ป่วยบางราย หรือพิจารณาเสริมหน้าอกโดยใช้ถุงเต้านมร่วมด้วย

เทคนิคที่ 2 แผลเป็นที่ด้านล่างของเต้านมเป็นรูปตัว T

ลดขนาดเต้านมมีแผลเป็นที่ด้านล่างของเต้านมเป็นรูปตัว T หัวกลับ แผลในลักษณะนี้ทำให้รูปทรงเต้านมสวย แต่มีปัญหาเรื่องแผลเป็นเห็นได้ชัด

เทคนิคที่ 3 ผ่าตัดที่มีแผลเป็นในแนวนอน

ลดขนาดเต้านมการผ่าตัดที่มีแผลเป็นในแนวนอน (Non-Vertical Scar) สำหรับในบางรายที่ไม่ต้องการมีแผลในแนวตั้ง อาจลดขนาดโดยใช้แผลแนวนอน แต่แผลมักยาวมาก ค่อนไปด้านข้างของเต้านม

เทคนิคที่ 4 (Nipple graft)

ลดขนาดเต้านม

กรณีที่เต้านมขนาดใหญ่และยานมาก อาจต้องตัดเต้านมเกือบทั้งหมดแล้วย้ายหัวนมและปานนมมายังตำแหน่งใหม่

เทคนิคที่ 5 ดูดไขมัน (LIPOSUCTION)

ลดขนาดเต้านมในเด็กวัยรุ่นที่มีเต้านมใหญ่กว่าปกติ แต่ผิวหนังมีความยืดหยุ่นได้ดีกับการดูดไขมันเป็นเทคนิคที่มีแผลเป็นน้อยมาก และได้ผลดี โดยเฉพาะในคนที่อายุน้อยการผ่าตัดด้วยเทคนิคที่ 1-4 มีแผลเป็นที่ยอมรับได้ยากในเรื่องแผลเป็น

เทคนิคที่ 6 แผลเป็นรูปกุญแจ (VERTICAL SCAR)

เป็นเทคนิคที่ไม่อยากมีแผลเป็นในแนวนอน การผ่าตัดทำโดยตัดแต่งเนื้อเต้านมออกตามต้องการแล้วเย็บปิดแผล โดยไม่ตัดแผลตามแนวขวาง วิธีนี้จะมีรอยจีบใต้ราวนมประมาณ 2 – 3 อาทิตย์

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดลดขนาดหน้าอก

  1. รับการตรวจสภาพร่างกาย ตรวจเต้านมหาความผิดปกติก่อนการผ่าตัด
  2. แพทย์จะทำการวัดและกำหนดจุดต่างๆที่สำคัญสำหรับการผ่าตัดที่หน้าอก
  3. ควรหยุดงานประมาณ 10 วัน
  4. งดยาต้านการอักเสบ [NSAID] หรือยาแก้อักเสบ หยุดยา 10 วันก่อนการผ่าตัด
  5. ปรึกษาแพทย์เพื่อกำหนดปริมาณของเต้านมที่ต้องการตัดออก
  6. งดอาหาร และน้ำ ก่อนการผ่าตัด 6 ชม.
  7. เตรียมชุดชั้นในขนาดเล็กลงประมาณ 1 ไซร์
  8. ถ้าความดันสูงควรควบคุมความดันให้อยู่ต่ำกว่า 140/90 mm Hg  มิลลิเมตร ปรอท)เนื่องจาการผ่าตัดทำให้เสียเลือดบางส่วน

ขั้นตอนการผ่าตัดลดขนาดหน้าอก

  1. ทำโดยการดมยาสลบ หลังการผ่าตัดคนไข้ต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลประมาณ 2-3 วัน
  2. คนไข้ทำการวัดตำแหน่งของเต้านมในท่ายืน ก่อนการผ่าตัดได้กำหนดปริมาณของเนื้อนมที่ต้องการ
  3. การผ่าตัดทำโดยตัดผิวหนังและเนื้อบริเวณเต้านมออก จัดวางตำแหน่งของหัวนมใหม่และเย็บปิดแผล
  4. ถ้าทำการดูดไขมันจะเปิดแผล ขนาด 1 ซม.ใต้ราวนมด้านข้างๆหรือเปิดแผลบริเวณใต้รักแร้ ก็สามารถทำได้การดูดไขมัน จนได้ขนาดที่ต้องการ แล้วจึงเย็บปิดแผล
  5. สายระบายน้ำเหลืองจะใส่ประมาณ 1-2 วัน จะถอดออกในวันที่อกจากรพ.

การดูแลหลังการผ่าตัดลดขนาดหน้าอก

  1. จะต้องใส่สปรอร์ตบราตลอดเวลาเพื่พยุงทรง ประมาณ 1-4 สัปดาห์
  2. หลีกเลี่ยงการทำงานหนักหรือการออกกำลังกายอย่างรุนแรงประมาณ 1 เดือน
  3. แพทย์จะนัดมาตัดไหมออกและตรวจเต้านม อีกประมาณ 1 – 2 อาทิตย์
  4. แผลผ่าตัดจะเห็นชัดในช่วงแรก และจะดีขึ้นตามลำดับภายใน 1 – 2  ปี
  5. สามารถเอาผ้าพันแผลออกได้ภายใน 1 – 7 วัน
  6. ทานยาตามที่แพทย์สั่ง
  7. ห้ามให้แผลโดนน้ำจนกว่าจะตัดไหม่

อาการข้างเคียง

  1. เนื้อตาย ถ้าคุณสูบบุหรี่ ควรเลิกบุหรี่ให้ได้อย่างน้อย 2 อาทิตย์ก่อนการผ่าตัด จะสามารถป้องกันปัญหาเนื้อตายได้
  2. ประสาทรับความรู้สึกบริเวณหัวนมเปลี่ยนไป ถ้าเป็นก็จะหายได้ภายใน 6 เดือน
Privacy Preferences
When you visit our website, it may store information through your browser from specific services, usually in form of cookies. Here you can change your privacy preferences. Please note that blocking some types of cookies may impact your experience on our website and the services we offer.