โดยปกติอัณฑะจะมีขนาดใหญ่มากขึ้นจะมีขนาดโตเต็มที่ในช่วงเวลาวัยรุ่น หลังจากอายุ 20 ปี ลูกอัณฑะจะมีขนาดไม่เปลี่ยนแปลง ยกเว้นในกรณีที่มีความผิดปกติ เช่นเนื้องอกหรือถุงน้ำในภาวะปกติ เมื่อคนเราอายุมากขึ้นหรือในบางคนที่มีอายุน้อย ลูกอัณฑะที่มีขนาดใหญ่จะถ่วงน้ำหนักลง ทำให้ถุงอัณฑะยานลง การหย่อนยานมากขึ้น คนที่ไม่ได้ใส่กางเกงในหรือใส่กางเกงในที่หลวมกว่าปกติ การหย่อนยานของหนังถุงอัณฑะทำให้ใส่กางเกงในได้ยากขึ้น อาจมีผิวหนังส่วนเกินออกมาจากขอบกางเกงใน ถ้าการหย่อนยานเกิดมากขึ้น เวลาเดินอาจเสียดสีกับขาหนีบ ทำให้เป็นแผลเรื้อรังหรือเกิดโรคเชื้อราได้
ในบางคนอาจมีปัญหาในการมีเพศสัมพันธ์ ถุงอัณฑะที่หย่อนยานทำให้ลูกอัณฑะได้รับการกระทบกระเทือนมากขึ้นขณะร่วมเพศ ได้ นอกจากนี้แล้วการหย่อนยานของถุงอัณฑะในคนอายุน้อยที่มีผลในเรื่องรูปร่าง ของอวัยวะเพศโดยรวมผิดปกติ ทำให้ปัญหาขาดความมั่นใจและเกิดความกังวลได้ การผ่าตัดยกกระชับถุงอัณฑะหรือลดขนาดของผิวหนังถุงอัณฑะเป็นการผ่าตัดเล็ก สามารถทำโดยการฉีดยาชาได้ และสามารถแก้ไขถุงอัณฑะหรือลดขนาดของผิวหนังถุงอัณฑะได้ดี แผลเป็นจะมองไม่ชัดและจะซ่อนอยู่ใต้ขอบอวัยวะเพศทำให้เห็นแผลเป็นไม่ชัด โดยทั่วไปในคนที่มีถุงอัณฑะยานตั้งแต่เด็กเวลาอายุมากขึ้นหนังอัณฑะจะยืดยาว ขึ้น อาจทำให้ต้องผ่าตัด ลดผิวหนังมากขึ้นด้วย
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
สารบัญ
- เตรียมตัวหยุดงาน 3-7 วัน ขึ้นกับชนิดของเทคนิคที่ทำ
- ไม่ต้องงดน้ำและอาหาร ถ้าทำโดยการฉีดยาชา
- งดยาต้านการอักเสบ [NSAID] เช่นแอสไพริน อาหารเสริมบางตัวที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือดเช่นกระเทียม น้ำมันปลา อย่างน้อย 2 อาทิตย์ ก่อนการผ่าตัด
- กรณีที่มี โรคประจำตัว เช่นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ
- ทำความสะอาดและโกนขนอวัยวะเพศก่อนมาผ่าตัดควรเลือกกางเกงในสีเข้ม เช่น ดำ ,น้ำเงิน ,น้ำตาล เพราะน้ำเหลืองจากแผลจะเลอะกางเกงในเห็นได้ชัด
- เตรียมกางเกงชั้นในหลวมๆสำหรับใส่หลังผ่าตัด
- เตรียมอุปกรณ์ที่ทำแผลได้แก่
a. น้ำเกลือล้างแผล
b. เบตาดีน (ห้ามใช้ทินเจอร์ ไอโอดีน หรือแอลกอฮอลล์)
c. ผ้าก๊อส
d. ไม้พันสำลี
e. พลาสเตอร์ปิดแผล
f. กอสกันติดแผล อาจใช้ Sofatulle หรือ ER gotulle
การปรึกษาก่อนผ่าตัด
- ควรตรวจลูกอัณฑะว่ามีความผิดปกติหรือไม่ เช่นเป็นเนื้องอกหรือถุงน้ำ
- ถ้าอัณฑะมีขนาดใหญ่กว่าอีกข้างมากอาจมีภาวะถุงน้ำหรือมีภาวะเส้นเลือดขอดได้
- ตามปกติความหย่อนยานของอัณฑะจะไม่เท่ากัน ในการประมาณขนาดผิวหนังที่ต้องตัดข้างหนึ่งอาจต้องตัดมากกว่าอีกข้างหนึ่ง
- การตรวจเพื่อวัดขนาดและตำแหน่งผิวหนังต้องการลดควรวัดขนาดผิวหนังที่จะ ตัดในท่ายืนเพราะเป็นท่าที่ถุงอัณฑะหย่อนมากที่สุด โดยประมาณว่าต้องลดขนาดถุงอัณฑะหรือต้องยกระดับอัณฑะขึ้นมาเท่าไหร่ การแจ้งให้แพทย์ทราบถึงระดับผิวหนังที่ต้องการยกขึ้น
- ถ้ามีโรคประจำตัวหรือมียาทานประจำควรแจ้งให้แพทย์ทราบ
- กรณีที่มีพังพืดระหว่างอัณฑะและอวัยวะเพศ [Scrotal web] อาจต้องเตรียมผ่าตัดแก้ไขด้วยเพื่อให้อวัยวะเพศยืดยาวได้มากเป็นปกติ
ขั้นตอนการผ่าตัด
- ก่อนการผ่าตัดควรเตรียมโกนขนบริเวณอัณฑะก่อน
- วาดรูปผิวหนังที่ต้องการยกขึ้นหลังระดับอัณฑะที่ต้องการเปลี่ยนแปลงใช้ท่ายืน เตรียมผิวหนังบริเวณที่ผ่าตัด โดยเช็ดด้วยยาฆ่าเชื้อ
- ฉีดยาชาบริเวณที่ผ่าตัด
- ตกแต่งผิวหนังและยกผิวหนัง ถุงอัณฑะ จนได้ระดับและขนาดที่ต้องการ อาจต้องเย็บกล้ามเนื้อถุงอัณฑะ กรณีที่ต้องการยกกระชับถุงอัณฑะ
- ถ้าต้องแก้ไขพังพืดระวังอัณฑะกันองคชาติ [scrotal web] ก็ผ่าตัดแก้ไขในครั้งเดียวกัน
- เย็บปิดแผลบริเวณผ่าตัดด้วยไหมละลาย
การดูแลหลังการผ่าตัด
- ทำความสะอาดแผลทุกวันโดยแพทย์จะนัดทำแผลในวันรุ่งขึ้นแล้วจากนั้นผู้ป่วยสามารถทำแผลเองได้
- จะนัดตัดไหมเมื่อประมาณ 7-10 วัน ผู้ที่สูบบุหรี่อาจตัดไหมช้ากว่านี้ หรืออาจไม่ต้องตัดไหม ถ้าใช้ไหมละลาย
- อวัยวะเพศที่ลูกอัณฑะอาจบวมได้ประมาณ 2-3 อาทิตย์
- ห้ามร่วมเพศประมาณ 2-3 อาทิตย์
- อาจต้องใช้ยาลดการแข็งตัวของอวัยวะเพศในช่วงเวลา 7 วันหลังผ่าตัด
- หลีกเลี่ยงการดูภาพหรือหนังสือที่กระตุ้นความรู้สึกทางเพศเพราะจะทำให้เจ็บปวด เวลาแข็งตัว
- ควรหยุดพักผ่อน งดออกกำลังกาย หยุดประมาณ 7 วัน เพื่อลดความเคลื่อนไหวช่วยให้แผลหายเร็ว
- อาการเขียวจะหายไปใช้เวลา 1 อาทิตย์ แต่การบวมจะใช้เวลา 2-3 อาทิตย์
- กิจวัตรประจำวันสามารถทำได้ปกติในวันรุ่งขึ้น
ผลการผ่าตัด
- แผลเป็นจะเห็นได้ชัดในอาทิตย์แรกและจางลงใน 2-3 เดือน
- ตามปกติกล้ามเนื้อที่ถุงอัณฑะทำหน้าที่ปกป้องลูกอัณฑะและยกขึ้นลงตาม อุณหภูมิ การยกถุงอัณฑะขึ้นมากๆ ในบางคนอาจมีผลต่อการทำงานของกล้ามเนื้อดังกล่าวทำให้มีการลดสร้างตัวอสุจิ ในบางคนที่ต้องการยกผิวหนังมากๆ