รูปร่างของแก้มที่นูนโตมากกว่าปกติ บางครั้งมีผลทำให้รูปหน้าอ้วนดูไม่สวยงาม ในบางคนที่มีแก้มยื่นออกมามากจนรูปหน้าดูใหญ่และกลม การที่หน้ากลมก็อาจมีพอทำให้รูปหน้าดูไม่สวยงาม เมื่อเทียบกับใบหน้ารูปไข่โดยเฉพาะในผู้หญิง ก้อนไขมันที่แก้มบางครั้งอาจเกิดจากไขมันที่อยู่ในกระพุ้งแก้มซี่งอยู่ในระหว่างกล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่เคี้ยวอาหารไม่ใช่ไขมันที่อยู่ใต้ผิวหนังทั่วๆไป การผ่าตัดจะต้องเข้าไปตัดออก โดยเปิดแผลข้างในปากเพื่อเข้าไปตัดไขมันที่ทำให้รูปหน้าที่กลมอ้วนให้ผอมบางลงได้
การดูการเปลี่ยนแปลงของรูปหน้า อาจสังเกตได้ง่ายๆโดยการลองผิวปากหรือดูดน้ำแล้วส่องกระจกจะเป็นลักษณะรูปแก้มที่เล็กลง ซึ่งมีผลให้ใบหน้าเรียวเล็ก ช่วยให้รูปหน้าดูดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ในคนที่แก้มไม่ได้มีขนาดใหญ่มากและอายุน้อยและต้องระมัดระวังในการตัดไขมันออกเพราะเมื่ออายุ 25-35 ปี ใบหน้าจะมีการสูญเสียไขมัน บางส่วนทำให้ใบหน้าดูผอมลงอยู่แล้ว การตัดไขมันออกมากก่อนเวลานั้น อาจทำให้รูปหน้าผอมเล็กเกินไป การคาดการณ์ถึงการลดลงของไขมันที่แก้มอาจสังเกตจากพ่อแม่หรือญาติ ว่าตอนอายุมากขึ้นมีการบุ๋มของแก้มมากแค่ไหน ทำไม่มากก็อาจทำการตัดไขมันที่กระพุ้งแก้มออกได้มาก แต่ถ้าพ่อแม่มีแก้มที่บุ๋มอยู่ควรตัดไขมันออกเพียงเล็กน้อย
การผ่าตัดไขมันกระพุ้งแก้มทำให้คนที่มีอายุน้อยและมีสุขภาพดี ไม่ควรมีควรประจำตัว การผ่าตัดเป็นการผ่าตัดเล็ก ใช้เวลาน้อย แต่ต้องมีการเตรียมตัวเช่นเดียวกับการผ่าตัดศัลยกรรมความงามอื่นๆ และควรที่จะปรึกษาแพทย์ ถึงปริมาณไขมันที่ต้องการลดให้ชัดเจนก่อนการผ่าตัด ว่าต้องการตัดออกมากน้อยแค่ไหน ในระหว่างปรึกษาก่อนการผ่าตัด ควรแจ้งให้ทราบถ้ามีโรคประจำตัวและยาที่ทานประจำรวมถึงประวัติการแพ้ยา
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
- งดยาต้านการอักเสบ [ NSAID ] เช่นแอสไพริน บุหรี่ อาหารเสริมบางตัวที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น กระเทียม น้ำมันปลา อย่างน้อย 2 อาทิตย์ก่อนการผ่าตัด
- สมุนไพรบางชนิดเช่น อิฟนิ่งพริมโรส ยาวิตามินอีปริมาณสูงๆ อาหารที่มีส่วนผสมของผงชูรส กระเทียม หัวหอม ผลิตภัณฑ์จากถั่งเหลือง อาจทำให้เลือดออกมากผิดปกติหรือมีปัญหาระหว่างผ่าตัด ควรแจ้งให้แพทย์ทราบเพราะอาจต้องหยุดรับประทานสมุนไพรก่อนเข้ารับการผ่าตัดประมาณ 7 วัน
- แปรงฟันและทานอาหารให้พร้อมก่อนผ่าตัด เนื่องจากหลังผ่าตัดมักทานอาหารได้น้อย
- ลาหยุดงานประมาณ 3 วัน
- งดอาหารก่อนผ่าตัด 4 ชม. เพราะอาจเกิดการคลื่นไส้ในระหว่างการผ่าตัดในปาก
- ควรพาเพื่อนมาด้วยในวันผ่าตัด
- ปรึกษาแพทย์ถึงปริมาณไขมันที่ต้องการเอาออกก่อนผ่าตัด
ขั้นตอนการผ่าตัด
- ทำให้หลับด้วยยานอนหลับ และฉีดยาชา ผสมอดินาลีนในช่องปากเพื่อไม่ให้เลือดออกมากระหว่างการผ่าตัด
- แพทย์จะทำการเปิดแผล ภายในปากหลังผ่าตัด 2 – 4 ซม.ที่ร่องระหว่างเหงือกกับกระพุ้งแก้มบริเวณฟันกรามซี่ที่ 2
- เปิดแผลผ่านกล้ามเนื้อที่ใช้เคี้ยวอาหาร
- ดันไขมันที่ต้องการตัดออกมาทางแผลเปิดและทำการผ่าตัดไขมันออก
- เย็บแผลปิดด้วยไหมละลายใช้เวลาทั้งหมดไม่เกิน 1 ชั่วโมง
- ใช้ผ้าก๊อสปิดแผลด้านนอกเพื่อกดให้เลือดหยุด
การดูแลหลังการผ่าตัด
- ประคบเย็นตรงแก้มให้บ่อยที่สุดนาน 2 วัน หรือจนกว่าจะยุบบวม
- นอนศรีษะสูง 2 วัน สามารถนอนตะแคงศรีษะได้
- วันแรกควรทานอาหารอ่อนหรือทานอาหารเหลว งดรับประทานอาหารที่มีรสเผ็ดจัด แข็งมากหรือเปรี้ยวมาก
- ผักผลไม้ที่นำมารับประทาน ควรล้างให้สะอาดไม่ควรกินปลาดิบหรือเนื้อหรือไม่สุก หรืออาหารที่มีโอกาสปนเปื้อนเชื้อโรคได้มาก
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใน 1 อาทิตย์แรกหลังการผ่าตัด
- งดการสูบบุหรี่ 2 อาทิตย์หลังการผ่าตัด
- ดื่มน้ำมากๆ
- บ้วนปากบ่อยๆด้วยน้ำเกลือหรือน้ำสะอาดหรือน้ำยาบ้วนปาก วันละหลายครั้ง
- อย่าให้ลิ้นดุนหรือใช้มือดึงไหมที่เย็บแผลในปาก
- ทำกิจวัตรประจำวันที่ไม่หนักได้ตามปกติในวันที่ 3หลังผ่าตัด งดออกกำลังกายหนัก 10 วัน
- สามารถเอาผ้าพันแผลด้านนอกออก ได้ภายใน 1 วัน
- ไหมที่ใช้เย็บเป็นไหมละลายไม่ต้องตัดไหมแต่แพทย์จะนัดตรวจดูอาการในวันที่ 7 และ 21 หลังจากเวลาผ่านไปประมาณ 1-2 เดือน อาการบวมจะยุบลงและได้รูปร่างของแก้ม ตามที่ต้องการ
- โดยปกติจะบวมมากประมาณ 3 วัน
- ทานยาแก้ปวดและยาแก้อักเสบตามเวลา
- ถ้ามีเลือดออกมาก หรือนานมากผิดปกติให้ติดต่อแพทย์ทันที
หมายเหตุ
- จะมีอาการชาที่แก้มและในปาก ระยะแรก โดยทั่วไปอาการจะดีขึ้นใน 2 – 3 อาทิตย์
- ในช่วงระหว่างการหายของแผลอาจมีการบุ๋มลงของแก้มและไม่เท่ากันเนื่องจากแผลแต่ละด้านจะบวมไม่เท่ากัน ความแตกต่างของอาการบวมและแก้มบุ๋มจะดีขึ้นในระยะเวลา 1 – 2 เดือน
– วันรุ่งขึ้นแต่งหน้าได้เลย
– เจอะเจอผู้คนได้ภายใน 2 – 5 วัน