ตัดเต้านมผู้หญิงออก
การตัดเต้านมออกในผู้ที่ต้องการเปลี่ยนจากเพศหญิงเป็นเพศชายมักต้องตัดเนื้อเต้านมส่วนใหญ่ออก โดยให้มีหัวนมและฐานนมอยู่บนหน้าอกที่แบนราบเป็นการผ่าตัดที่สำคัญที่สุดของผู้หญิงที่ต้องการเป็นผู้ชายเพราะเป็นการเปลี่ยนแปลงรูปร่างภายนอกที่สำคัญให้ดูเป็นผู้ชายมากขึ้น เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าเทคนิคการผ่าตัดอวัยวะเพศมีวิธีการที่ค่อนข้างยุ่งยาก ดังนั้นในคนที่ต้องการเป็นผู้ชายมักจะเลือกที่จะทำการตัดหน้าอกออกก่อนแล้วค่อยตัดสินใจผ่าตัดอวัยวะเพศ การผ่าตัดเต้านมผู้หญิง (ที่ต้องการเป็นผู้ชาย) ประกอบด้วยการตัดส่วนของเนื้อเต้านมออกโดยอาจร่วมกับการจัดตำแหน่งหัวนมใหม่ให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมในบางรายโดยทั่วไปคนที่ต้องการผ่าตัดมักจะสวมผ้าพันหน้าอกมาเป็นเวลานานการสวมผ้ารัดหน้าอกมีข้อดีจะทำให้ผิวหนังบริเวณหน้าอกไม่หย่อนยานทำให้การผ่าตัดสามารถเลือกเทคนิคที่ง่ายได้แต่ถ้าเต้านมมีขนาดใหญ่มากและหย่อนยานมากคงต้องใช้วิธีที่ต้องตัดผิวหนังเพิ่มผลออกมาสวยงามที่สุด
การผ่าตัดเต้านมออกนั้นเป็นไปได้ยากที่แพทย์จะเก็บเส้นประสาทที่เลี้ยงหัวนมและปานนมไว้ได้ ทั้งนี้เพราะเส้นประสาทจะวิ่งผ่านตัวเต้านมเข้ามาจากทางด้านข้าง เมื่อตัดเต้านมออกไปแล้วเส้นประสาทย่อมจะถูกตัดออกไปด้วย ดังนั้นหัวนมจะมีความรู้สึกน้อยลงอย่างชัดเจน แต่บางรายอาจจะรู้สึกมากขึ้นได้บ้าง โดยเมื่อเทียบกับก่อนการผ่าตัดรายที่ผ่าตัดปานนมก็จะมีความรู้สึกเช่นเดียวกับหนังที่หน้าอก แต่มีความรู้สึกต่อการกระตุ้นทางเพศลดลงอย่างชัดเจน ส่วนของหัวนมในบางราย อาจจะต้องปรับแต่งให้ดูเล็กลง เพื่อให้เข้ากับขนาดเต้านมที่เล็กลง
การผ่าตัดเต้านมออกในผู้หญิงที่ต้องการเป็นผู้ชายมีหลักการเพื่อที่จะทำเต้านมให้มีลักษณะเหมือนหน้าอกเพศชายมากที่สุดโดยที่จะคงความรู้สึกไว้ให้เหมือนปกติมากที่สุดและทำให้แผลเป็นน้อยที่สุดหลักการในการผ่าตัดประกอบด้วย
- ตัดเนื้อเต้านมออกให้มากที่สุด
- ตัดแต่งผิวหนังส่วนเกินของหน้าอกหรือตัดแต่งผิวหนังส่วนที่เกินขอบล่างของหน้าอกในบางราย
- หัวนมและปานนม
• จัดขนาดและรูปร่างให้เหมาะสมเหมือนกับหัวนมและปานนมผู้ชาย
• จัดตำแหน่งของหัวนมและปานนมใหม่ให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
เทคนิคที่จะใช้ในการผ่าตัดขึ้นอยู่กับ
- เนื้อเต้านมที่ต้องการผ่าตัดออก
- การหย่อนยานของเต้านม
- ความยืดหยุ่นของผิวหนัง
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
- งดอาหารและน้ำอย่างน้อย 6 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัด
- งดใช้ยาบางชนิดที่อาจมีผลต่อการผ่าตัดเช่น ยาแก้ปวด , แอสไพริน ถ้ามีโรคประจำตัวหรือแพ้ยาบางอย่างต้องแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน
- หลีกเลี่ยงการผ่าตัดในช่วงมีประจำเดือน
- ปัสสาวะให้เรียบร้อยก่อนเข้าห้องผ่าตัด
- ตรวจเลือดดูระบบโลหิต การทำงานของไต เอ็กซเรย์ปอด และตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ถ้าอายุมากกว่าหรือเท่ากับ 35 ปี
- ควรพาเพื่อนมาด้วยในวันผ่าตัด
- อุปกรณ์ของมีค่าเช่น แหวน สร้อยคอ กำไล ถ้าไม่จำเป็นควรเก็บไว้ที่บ้าน
- เตรียมลาหยุดงานประมาณ 3 – 5 วัน
- เสื้อผ้าที่ใส่หลังผ่าตัดควรเตรียมเสื้อเชิ้ตหลวมๆไม่ควรใส่เสื้อที่ต้องใส่ผ่านคอ
- ก่อนเข้าห้องผ่าตัดควรถอดเครื่องประดับที่เป็นโลหะติดตัวออกให้หมด
- หลังผ่าตัดไม่ควรขับรถเองประมาณ 5 – 7 วันไม่ควรขับรถมาโรงพยาบาลควรนัดให้คนขับรถมารับหรือใช้บริการสาธารณะ
- ผู้ที่ต้องการตัดหน้าอกต้องพบจิตแพทย์ 2 ท่าน เพื่อตรวจและวินิจฉัยและออกใบรับรองแพทย์ก่อนผ่าตัด
- งดวิตามิน ซี และ อี แลพหยุดฮอร์โมน 14 วันก่อนการผ่าตัด
เทคนิคการตัดเต้านมออก
ทุกวิธีการทำโดยการดมยาสลบ
เทคนิคที่ 1
โดยจะเปิดใต้ปานนม ( semi circular ) ตัดไขมันและเต้านมออกใช้กับเต้านมขนาดเล็กและผิวหนังยืดหยุ่นได้ดีโดยแผลเป็นจะอยู่ในรูปครึ่งวงกลมที่ขอบล่างของปานนมวิธีการนี้เป็นวิธีที่แผลเป็น ค่อนข้างดีจึงมีการใช้กันมากที่สุดแต่ไม่สามารถใช้กับเต้านมขนาดใหญ่และมีผิวหนังส่วนเกินมากเพราะผิวหนังส่วนเกินจะคล้อยและหย่อนหลังผ่าตัดทำให้ดูรูปร่างไม่สวยงาม**เทคนิดที่1A ไม่ต้องตัดหนังใต้ปานนม
**เทคนิคที่2B ตัดหนังใต้ปานนมเป็นรูปพระจันทร์ในกรณีที่ผิวหนังหย่อนน้อย
**เทคนิค ที่ 1,2,3 การผ่าตัดจะทำร่วมกับการดูดไขมันบริเวณด้านบนและด้านข้างของเต้านมด้วย เพื่อไม่ให้เกิดรอยต่อบริเวณที่ดูดไขมันกับแผลที่ผ่าตัดเต้านม วิธีนี้จะทำให้หน้าอกหลังการผ่าตัดเรียบเสมอกันมีความสวยงามมากขึ้น
**เทคนิคที่ 4A,4B จะมีผิวหนังเป็นจีบ 2-3 เดือน
เทคนิคที่ 5
ลงแผลที่ฐานนมโดยไม่มีแผลที่ปานนม (inframamary) ในคนที่มีหน้าอกใหญ่และคล้อยลงเล็กน้อย และมีผิวหนังที่บริเวณหัวนมและขอบล่างของเต้านมเกินไม่มาก อาจทำการตัดผิวหนังเฉพาะส่วนที่อยู่ระหว่างปานนมและขอบล่างของเต้านม โดยไม่ต้องย้ายหัวนมและปานนม วิธีนี้เหมาะกับคนที่มีปานนมเล็กอยู่แล้วไม่ต้องการลดขนาดปานนมและหัวนม มีข้อดีคือไม่มีแผลที่รอบปานนมแต่จะมีแผลยาวที่ขอบล่างของเต้านม ซึ่งก็จะมีรูปร่างเหมือนขอบของกล้ามเนื้อในผู้ชาย
เทคนิคที่ 6
ลงแผลรอบปานนมและด้านข้างของฐานนมโดยไม่มีจีบ ( circular – no – purseting )วิธีนี้ลงแผลรอบปานนมและออกด้านข้างทั้งด้านนอกและด้านในโดยไม่มีการทำจีบ บริเวณปานนมดังนั้นจะมีแผลด้านข้างยาวมากทั้ง 2 ข้างวิธีนี้เหมาะกับเต้านมที่มีขนาดใหญ่และคล้อยมากมีข้อเสียคือแผลเป็น ยาวอยู่บริเวณด้านข้างของปานนมแต่มีข้อดีคือผิวหนังไม่หย่อนยานและมีความเสี่ยงเรื่องแผลเป็นที่หัวนมและเกิดการสูญเสียหัวนมน้อยกว่าเทคนิคที่ 8 วิธีนี้เหมาะกับคนที่ต้องทำวิธีที่ 8 อยู่แล้วแต่ไม่ต้องการทำกราฟที่หัวนมเมื่อเทียบกับเทคนิคที่ 8 เทคนิคนี้มีแผลเป็นที่ยาวพอๆ กับเทคนิคที่ 8 แต่วิธีนี้หัวนมจะอยู่ระะดับกลางแผลในขณะที่เทคนิคที่ 8 หัวนมจะอยู่สูงกว่าแผลแต่อย่างไรก็ตามในคนที่หน้าอกใหญ่มากๆและยานมากๆ ก็อาจทำไม่ได้
เทคนิคที่ 8
การตัดเต้านมออก (nipple graft) โดยตัดเต้านมและผิวหนังหน้าอกออกและย้ายหัวนมและปานนมมาแปะในตำแหน่งที่ ต้องการทำปานนมและหัวนมใหม่การผ่าตัดทำในคนที่มีเต้านมใหญ่และยาน มีผิวหนังส่วนเกินมากจนไม่สามารถผ่าตัด ด้วยเทคนิคที่ 1 – 4 ได้ซึ่งต้องใช้วิธีผ่าตัดนี้ วิธีการนี้สามารถตัดเต้านมและผิวหนังออกได้มากแต่มีแผลเป็นยาวไปตามบริเวณขอบใต้ราวนม หัวนมและปานนมที่ย้ายตำแหน่งขึ้นไปเป็นการย้ายเนื้อเยื่อแบบกราฟคือไม่มีเส้นเลือดไปเลี้ยงตามปกติจึงต้องจัดให้หัวนมและปานนมติดกับผิวหนังเป็นเวลา 5 วันโดยไม่เคลื่อนไหว วิธีการนี้คนไข้ต้องพักที่โรงพยาบาล 5 วันก่อนการเปิดแผลและมีความเสี่ยงงดกรณีถ้าหัวนมที่แปะอาจไม่ติดทั้ง 100% ทำให้ต้องทำแผลต่อหลังผ่าตัดระยะหนึ่งหรือต้องทำปานนมใหม่ถึงแม้วันนี้จะมี ความเสี่ยงกับเนื้อเยื้อหลังผ่าตัดหลายอย่างแต่ก็เป็นวิธีการที่เดียว ที่สามารถทำได้ในคนที่มีเต้านมใหญ่มากและคล้อยมาก
เทคนิคที่ 9
การผ่าตัดลดขนาดของหน้าอกในบางคนที่มีเต้านมขนาดใหญ่มากและไม่ต้องการตัด เต้านมออกทั้งหมดอาจเลือกการลดขนาดเต้านมให้เล็กลงโดยไม่ต้องตัดออกทั้งหมด ทำให้สวมใส่เสื้อผ้ารัดรูปได้มากขึ้นเทคนิคนี้เหมาะกับคนที่มีหน้าอกขนาด ใหญ่และมีผิวหนังส่วนเกินมากเป็นการผ่าตัดที่ทำเช่นเดียวกับการผ่าตัดลดขนาดหน้าอก โดยจะมีแผลเป็นรูปตัวทีข้อดีของวิธีนี้คือไม่มีความเสี่ยงของแผล บริเวณปานนมและลดการสูญเสียของเนื้อหัวนมแต่มีข้อเสียคือแผลเป็นที่เต้านมเห็นชัดและเต้านมยังมีขนาดใหญ่อยู่
หลังจากที่เราทราบเทคนิคการผ่าตัดแต่ละวิธีแล้วจะเห็นว่าเทคนิคแต่ละเทคนิคมีความเหมาะสมกับคนไข้แตกต่างกันขึ้นอยู่กับขนาดของหน้าอกและความยืดหยุ่นของผิวหนังโดยทั่วไปอาจแบ่งลักษณะของหน้าอกแต่ละคนออกเป็น
1. หน้าอกขนาดเล็ก (น้อยกว่าคัพเอ)
ผิวหนังมีความยืดหยุ่นดีเทคนิคที่ใช้คือการเปิดแผลใต้ปานนมหรือ การเปิดแผลผ่านหัวนม (เทคนิคที่ 2 หรือเทคนิคที่ 1) หรือเทคนิคที่ 3
2. หน้าอกขนาดปานกลาง (คัพบี)
เป็นผิวหนังมีความยืดหยุ่นดีเทคนิคที่ใช้คือการเปิดแผลรอบปานนม (เทคนิคที่4A) หรือเทคนิคที่ 4B ถ้ามีผิวหนังส่วนเกินเหลืออยู่มาก
3. หน้าอกขนาดใหญ่หรือขนาดกลาง (คัพ บี – ซี)
ที่ผิวหนังมีความยืดหยุ่นน้อยและเต้านมคล้อยมากเทคนิคที่ใช้จะต้องมีการตัดแต่งผิวหนังส่วนเกินออกมากกว่าใช้เทคนิคที่ 4A หรือเทคนิคที่ 4B การผ่าตัดอาจใช้เทคนิคที่ 6 หรือเทคนิคที่ 7 แล้วแต่ผิวหนังที่เกินและลักษณะแผลเป็นที่ต้องการ
4. เต้านมที่มีขนาดใหญ่และคล้อยมาก
เทคนิคที่ใช้ต้องตัดหัวนมออกทั้งหมดแล้วเอาปานนมและหัวนมย้ายมาแปะในตำแหน่งใหม่ (เทคนิคที่ 8) หรือในบางคนที่ไม่ยานมาก อาจเลือกใช้เทคนิคที่ 7 ได้ วิธีนี้จะมีผลทำให้หัวนมและปานนมไม่มีความรู้สึกแต่สำหรับเต้านมที่มีขนาดใหญ่มากเทคนิคนี้เป็นเทคนิคที่เหมาะสมที่สุดในกรณีที่เต้านมไม่ได้มีขนาดใหญ่มากเกินไป อาจมีการเลือกใช้เทคนิคที่ 6หรือ8 คือตัดแผลด้านข้างของปานนมโดยลดขนาดปานนมและตัดเนื้อส่วนเกินทางด้านข้างของปานนมหรือกรณีคนที่ต้องการเพียงแค่ลดขนาดของเต้านมอาจเลือกใช้เทคนิคที่ 9 ได้
การผ่าตัดเต้านม
- โดยปกติจะดมยาสลบผ่าตัดจึงควรงดอาหารและน้ำ 8 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัด
- ก่อนผ่าตัดแพทย์จะวาดรูปแผลที่ลงและผิวหนังที่ต้องการตัดออกและตำแหน่งของหัวนมในตำแหน่งใหม่ (สำหรับเทคนิคที่ 4 – 8) ตามที่ตกลงไว้ก่อนผ่าตัด
- ดมยาสลบ การผ่าตัดใช้เวลา 2 ชม.
- ตัดเนื้อเต้านมออกแล้วจัดวางตำแหน่งหัวนมและผิวหนังในตำแหน่งที่เหมาะสม
- ใส่สายระบายน้ำเหลือง ไว้ประมาณ 1-2 วัน
- เย็บปิดแผลแต่ละชิ้นจนถึงผิวหนัง
- พันผ้ารัดหน้าอกแบบหลวมๆ ไม่แน่นจนเกินไป
การดูแลหลังผ่าตัดเต้านม
- หลังการผ่าตัดจะมีผ้าพันหน้าอกและสายระบายเลือดน้ำเหลืองออกจากหน้าอกข้างละ 1 เส้นเพื่อระบายเลือดและน้ำเหลืองออกจากหน้าอกและป้องกันการเกิดเลือดคั่ง สายระบายจะติดอยู่กับตัวจนหมดปริมาณน้ำเหลืองและเลือดออกน้อยลงจึงจะทำการถอดสายออก
- โดยปกติแพทย์จะนัดตัดไหม 5 วัน แต่เทคนิคที่ 4 จะตัดไหมวันที่ 7 (คลายปม) และ 14 วันตัดทั้งหมด
- หลังผ่าตัดให้พันผ้ารัดหน้าอกไว้ 2 วันหลังจากนั้นแกะผ้ายืดออกแล้วเปิดแผล
- วันที่ 3 ให้เปิดแผลได้ใช้ยาที่ให้ทาแผล เช้า-เย็น
- สำหรับเทคนิคที่ 4 จะมีรอยย่นหลังตัดไหมรอยจะหายไปเมื่อ 2 – 3 เดือน
- ถ้ามีอาการผิดปกติหรือเลือดออกมากให้ติดต่อแพทย์ทันที
- วันแรกหรือวันที่ 2 หลังผ่าตัดแพทย์จะดึงสายระบายน้ำเหลืองออก
- ในบางรายแพทย์จะนัดคลายปม 5 วันแล้วอีก 3 วันจึงนัดมาตัดไหมหลังจากตัดไหมแพทย์จะปิดพลาสเตอร์ที่บริเวณรอยเย็บ เพื่อทำให้แผลหายสนิทและป้องกันการแยกของแผล หลังการผ่าตัด 1-2สัปดาห์จึงจะสามารถให้แผลโดนน้ำได้ แต่ไม่ควรถูหรือขัดบริเวณแผลผ่าตัด เพราะอาจจะทำให้แผลแยกได้ กรณีที่มีเลือดหรือน้ำเหลืองซึมออกมาควรรีบมาพบแพทย์
- แผลเป็นที่ปานนมจะมีสีคล้ำในระยะ 1 เดือนแรก ส่วนแผลเป็นจากการผ่าตัดจะมีการแข็งนูนแดงได้ในระยะแรก แต่ถ้าแผลเป็นมีการนูนแข็งตัวและขยายใหญ่ขึ้นมากกว่าเดิม อาจเกิดจากการเกิดแผลคีรอยด์ ซึ่งอาจมีการรักษาโดยการฉีดยา
- ควรใส่เสื้อที่มีขนาดกระชับบริเวณหน้าอกไว้ประมาณ 1 เดือน เพื่อช่วยกระชับผิวหนังไม่ให้เกิดการเหี่ยวย่น