Scroll Top
lower Blepharoplasty
ตัดถุงไขมันใต้ตา และตกแต่งหนังตาล่าง

ถุงไขมันใต้ตา เกิดจากการป่องนูนของไขมันบริเวณใต้ดวงตา ซึ่งปกติจะถูกกั้นไว้ด้วยกล้ามเนื้อเปลือกตาที่แข็งแรงทำให้ดูเรียบตึง แต่ถ้าขาดการดูแล เกิดความเครียด และวัยที่เพิ่มมากขึ้น จะทำให้ไขมันส่วนนี้จะค่อยๆ นูนป่องออกมาทีละน้อยๆ จนสังเกตเห็นได้ชัดขึ้นเรื่อยๆ

วิธีที่ดีที่สุดที่จะลดถุงไขมันใต้ตาได้ คือ การผ่าตัดเอาถุงไขมันใต้ตาออก และแก้ไขความหย่อนยานของผิวหนังกล้ามเนื้อเปลือกตาล่าง การดูดไขมันใต้ตาไม่สามารถทำได้ เนื่องจากอยู่ใกล้อวัยวะที่สำคัญคือ ดวงตา

เทคนิคที่ 1 การเปิดแผลด้านนอก
การเปิดแผลด้านนอก เป็นวิธีการผ่าตัดที่ลงแผลติดกับขนตาทางด้านผิวหนัง มีข้อเสียคือ มีแผลเป็นติดกับขนตา แต่เมื่อแผลเป็นหายดีจะเห็นไม่ชัด วิธีการนี้สามารถใช้ตัดผิวหนัง ไขมัน และกล้ามเนื้อส่วนเกินได้ ทำให้สามารถลดรอยย่นใต้ตาได้

เทคนิคที่ 2 การเจาะเก็บถุงไขมันตาล่างผ่านทางเยื่อบุหนังตา
ในกรณีที่ตาล่างมีถุงไขมันเพียงอย่างเดียว ไม่มีเปลือกตาย้อยหรือหย่อนร่วมด้วย แพทย์สามารถเจาะเก็บไขมันจากด้านในเปลือกตาได้ โดยไม่มีแผลด้านนอก แต่หากมี เปลือกตาย่นด้วย จะทำให้รอยย่นเกิดมากขึ้นและต้องใช้วิธีลดรอยหย่อนด้วยวิธีอื่นร่วมด้วย เช่น การใช้เลเซอร์ลอกผิว หรือต้องตัดตาล่างออกในภายหลัง

วิธีการนี้มีข้อดี คือ ไม่มีแผลภายนอก ผ่าตัดโดยใช้เครื่องจี้ไฟฟ้าหรือเลเซอร์ แต่จะไม่สามารถตัดแต่งหนังตาได้ จึงเหมาะกับผู้มีไขมันมากแต่ไม่ต้องการตัดแต่งหนังตา

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด

  1. หลีกเลี่ยงการใช้ยาบางอย่างซึ่งอาจทำให้เลือดหยุดช้า เช่น แอสไพริน บรูโรเฟน พอนสแตน ฯลฯ ถ้ากินยาควรหยุดยาประมาณ 10 – 14 วัน
  2. สมุนไพรและอาหารบางชนิดเช่น อาหารที่มีส่วนผสมของผงชูรส กระเทียม หัวหอม ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง อาจทำให้เลือดออกมากผิดปกติหรือมีปัญหาระหว่างผ่าตัด ควรแจ้งให้แพทย์ทราบเพราะอาจต้องหยุดรับประทานสมุนไพรก่อนเข้ารับการผ่าตัด ประมาณ3 – 5 วัน
  3. วิตามิน และอาหารเสริมต่างๆ เช่น วิตตามินซี อีฟนิ่งพริมโรส กลูต้า คลอลาเจน และอื่นๆ ควรหยุดทานอย่างน้อย 10-14 วันก่อนการผ่าตัด
  4. ควรแจ้งให้แพทย์ทราบถึงโรคประจำตัวของคุณ เช่น เบาหวาน ความดัน โรคหัวใจ และยาที่แพ้ เช่น เพนนิซิลินซัลฟา ฯลฯ
  5. ควรเตรียมนำแว่นกันแดดไปด้วย เพื่อใช้อำพรางดวงตาหลังการผ่าตัด และป้องกันฝุ่นละอองควรมีผู้ขับรถให้ เพราะหลังการผ่าตัดจะยังใช้สายตาได้ไม่สะดวกนัก จึงไม่ควรขับรถเอง
  6. เตรียมลาหยุดงาน 5 วัน
  7. ล้างหน้าก่อนมาผ่าตัด ไม่ควรแต่งหน้าในวันผ่าตัด
  8. ผู้ที่เป็นโรคหัวใจขาดเลือด ต้องการยา aspirin หรือ ผู้ที่เป็นโรคลิ้นหัวใจและทานยา Cumadinเป็นประจำ สามารถทำผ่าตัดได้ต่อเมื่อแพทย์ที่รักษายินยอมให้ทำการผ่าตัดและจะทำผ่าตัด เฉพาะในโรงพยาบาลเท่านั้น
  9. ผู้ที่ใช้เครื่องกระตุ้นการทำงานของหัวใจ ไม่ควรมารับการผ่าตัด เนื่องจากเครื่องจี้ไฟฟ้าอาจมีผลต่อการทำงานของเครื่องกระตุ้นหัวใจได้
  10. ถ้ามีความดันโลหิตสูง ต้องควบคุมให้ต่ำกว่า 140/90 mm Hg (มิลลิเมตร ปรอท)ก่อนมารับการผ่าตัด
  11. ถ้าใส่คอนแทคเลนส์ ควรถอดออกแล้วใส่แว่นตา วันที่มาผ่าตัดควรมีคนมาเป็นเพื่อน เพื่อช่วยดูแลขณะกลับบ้าน
  12. ถอดวัสดุโลหะ เช่น แหวน, สร้อยคอ, นาฬิกา ฯลฯ ก่อนเข้าห้องผ่าตัด

ขั้นตอนการผ่าตัด

  1. ฉีดยาชาบริเวณผนังเปลือกตาล่าง ร่วมกับการให้ยานอนหลับอย่างอ่อนๆ(ในกรณีที่คนไข้มีความประสงค์ขอทานยานอนหลับ)
  2. ผ่าเปิดผิวหนังเป็นลักษณะเส้นยาวตรงบริเวณหนังตาล่างที่อยู่ขอบใต้ขนตา เพื่อตัดเอาถุงไขมันส่วนเกินที่อยู่ภายใต้หนังตาล่างออก
  3. ตัดเย็บกล้ามเนื้อและผิวหนังบริเวณเปลือกตาล่างที่หย่อนให้เรียบตึง
  4. เย็บปิดแผลด้วยไหมเส้นเล็ก โดยจะซ่อนอยู่ชิดกับขนตาล่าง

การดูแลหลังผ่าตัด

  1. นอนยกศีรษะสูง (หนุนหมอน 2 ใบ) ประคบเย็นที่ตาทั้ง 2 ข้าง วันละ 4 ครั้ง ประคบประมาณ 5 – 7 วัน เพื่อลดอาการบวม
  2. ผ้าก็อส (GAUZE) ที่ปิดแผลบนตานั้นให้ปิดเพียง 1 วัน หลังจากทำผ่าตัด จากนั้นให้เปิดผ้าออกได้เลย ไม่ต้องนำมาปิดอีก
  3. ใช้ไม้พันสำลีชุบน้ำยาสะอาดในขวดเช็ดคราบเลือดและสิ่งสกปรกออก โดยเช็ดอย่างเบามือวันละ 2 – 3 ครั้ง และเช็ดได้บ่อย ๆ เมื่อสกปรก
  4. รับประทานยาตามแพทย์สั่งจนหมด ถ้าเกิดการแพ้ยา เช่น คัน มีผื่นแดง คลื่นไส้ – อาเจียนแน่นหน้าอกให้หยุดรับประทานทันที และรีบมาพบแพทย์
  5. หลังทำผ่าตัด 5 วัน ให้มาตัดไหม
  6. หลังทำผ่าตัด 2 อาทิตย์ หรือ 1 เดือน ให้มาพบแพทย์เพื่อตรวจอาการอีกครั้ง (โทรนัดล่วงหน้า)
  7. งดสุราหรือบุหรี่ 2 อาทิตย์ หลังผ่าตัด
  8. กลับบ้านได้ แต่ควรหาโชเฟอร์มาขับรถให้
  9. อาจจะมีน้ำตาไหลตลอดเวลาชั่วระยะหนึ่ง โดยเฉพาะเวลาที่โดนลม แต่จะหายไปภายในไม่กี่อาทิตย์

การดูแลหลังตัดไหม

  1. หลังจากตัดไหมแล้วตาจะยังมีอาการบวมอยู่ประมาณ 2 อาทิตย์ถึง 1 เดือน จากนั้นประมาณ 3 เดือน แผลจะหายเป็นปกติ และดูเป็นธรรมชาติ
  2. หลังตัดไหมแล้ว ให้ใช้ EYE CREAM ทานวดที่แผลครั้งละ 30 – 40 ครั้ง วันละ 2 เวลา (เช้า – เย็น) เพื่อป้องกันการเกิดแผลเป็นนูนแข็ง
  3. หลังทำผ่าตัดแล้ว 1 อาทิตย์ ในกรณีที่แผลเขียวช้ำ สามารถประคบอุ่นได้ โ ดยประคบวันละประมาณ 2 – 3 ครั้ง ประมาณ 3 – 5 วัน
  4. หากมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับแผล เช่น ตาแดงมาก เคืองตา แผลแยก ให้มาพบแพทย์ทันที
  5. ล้างหน้า รับประทานอาหาร ออกกำลังกาย โดนแสงแดดได้ตามปกติห้ามขยี้ตาแรงเป็นเวลา 2 เดือน

อาการข้างเคียง

  • เปลือกตาปิดไม่สนิท ในวันแรกคุณยังหลับตาได้ไม่สนิท หลังจากไม่กี่อาทิตย์ถัดมา คุณจะสามารถหลับตาสนิทเอง
  • ตาแห้งหรือรู้สึกเหมือนมีทรายอยู่ในตา มันจึงปล่อยน้ำตาออกมาทำให้นัยน์ตาฉ่ำเยิ้ม และมองอะไรไม่ชัด เพราะเกิดจากการตัดผิวหนังไขมันส่วนเกินบริเวณเปลือกตาล่างออกมากเกินไป ทำให้เปลือกตาล่างหดตัวลง อาการนี้มักจะเกิดไม่นานและจะกลับเป็นปกติภายในเวลาไม่กี่วันหรือเป็นอาทิตย์
Privacy Preferences
When you visit our website, it may store information through your browser from specific services, usually in form of cookies. Here you can change your privacy preferences. Please note that blocking some types of cookies may impact your experience on our website and the services we offer.