เป็นการผ่าตัดเพื่อแก้ไขริมฝีปากที่หนาผิดปกติให้บางลง นิยมทำในผู้ที่มีริมฝีปากหนามากและยื่นมากผิดปกติ โดยทั่วไป แพทย์จะพยายามซ่อนแผลเป็นให้อยู่ในเนื้อเยื่ออ่อนด้านในของริมฝีปาก ทำให้มองไม่เห็นแผลเป็นเวลายิ้ม
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
- งดยาแก้ปวดกลุ่ม Aspirin 7 – 10 วันก่อนผ่าตัด
- สมุนไพรบางชนิด เช่น อีฟนิ่งพริมโรส ยาวิตามินอีปริมาณสูง ๆ อาหารที่มีส่วนผสมของผงชูรส กระเทียม หัวหอม ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง อาจทำให้เลือดออกมากผิดปกติหรือมีปัญหาระหว่างผ่าตัด ควรแจ้งให้แพทย์ทราบเพราะอาจต้องหยุดรับประทานสมุนไพรก่อนเข้ารับการผ่าตัดประมาณ 3 – 5 วัน
- เตรียมหยุดงานประมาณ 5 วัน
- ทานอาหารให้อิ่มก่อนผ่าตัด
- ควรแปรงฟันก่อนมาผ่าตัด เนื่องจากหลังผ่าตัดอาจปวดแผล ทำให้
- แปรงฟันไม่สะดวก
- ควรพาเพื่อนมาด้วยในวันผ่าตัด
- ควรแจ้งให้แพทย์ทราบถึงโรคประจำตัวของคุณ เช่น เบาหวาน,โรคหัวใจ และยาที่แพ้ เช่น เพนนิซิลิน,ซัลฟา ฯลฯ
- ถ้ามีความดันโลหิตสูง ต้องควบคุมให้ต่ำกว่า 140/90 mm Hg (มิลลิเมตร ปรอท) ก่อนมารับการผ่าตัด
การดูแลหลังการผ่าตัด
- ผักผลไม้ที่นำมารับประทานควรล้างให้สะอาดไม่ควรกินปลาดิบหรือเนื้อที่ไม่สุก หรืออาหารที่มีโอกาสปนเปื้อนเชื้อโรคได้มาก
- บ้วนปากบ่อยๆด้วยน้ำเกลือหรือน้ำสะอาดหรือน้ำยาบ้วนปาก
- อย่าใช้ลิ้นดุนหรือใช้มือดึงไหมที่เย็บแผลในปาก
- งดออกกำลังกายที่อาจต้องมีการปะทะเช่นฟุตบอล บาสเกตบอล แฮนด์บอลประมาณ 4 อาทิตย
- ระมัดระวังเวลายิ้มอย่ายิ้มกว้างมากในช่วงแรก
- ดื่มน้ำโดยใช้หลอดและหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำหรืออาหารที่ร้อนหรือเย็นเกินไป
- สามารถใช้ลิปสติกได้ 1 อาทิตย์หลังผ่าตัด
- งดการสูบบุหรี่ 3 อาทิตย์หลังการผ่าตัด
- ดื่มน้ำมากๆ
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกฮอร์ใน 2 อาทิตย์แรกหลังการผ่าตัด
- โดยทั่วไปจะบวมประมาณ 5 – 7 วัน
- ควรใช้น้ำเย็นประคบริมฝีปากบ่อยๆ ในช่วง 1 – 2 วันแรก
- หลังผ่าตัดควรทานอาหารเหลว วันที่ 2 – 3 ให้ทานอาหารอ่อนได้
- ควรบ้วนปากบ่อยๆ
- โดยทั่วไปจะเย็บแผลด้วยไหมละลาย ไม่ต้องตัดไหม แต่แพทย์จะนัดมาตรวจหลังผ่าตัด ประมาณ 1 อาทิตย์
- ควรมาตรวจซ้ำประมาณ 2 – 3 อาทิตย์