ข้อดี-ข้อเสียของการผ่าตัดดึงหน้าแบบเอนโดไทน์
การผ่าตัดดึงหน้า Endotine แม้จะมีข้อดีในเรื่องการแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังมีข้อเสียที่ต้องพิจารณาก่อนการผ่าตัด เพื่อให้เหมาะสมในแต่ละบุคคล ดังนี้
ข้อดีของการผ่าตัดดึงหน้าแบบเอนโดไทน์
- Endotine คือวัสดุทางการแพทย์ที่ได้รับการรับรองจาก FDA สหรัฐอเมริกาว่าไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
- วัสดุ Endotine สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ โดยไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย
- การดึงหน้าแบบ Endotine มีความแม่นยำสูง จึงให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูง และลดความเสี่ยงในการเกิดอันตรายได้
- Endotine มีแรงดึงผิวที่สม่ำเสมอกว่าการผ่าตัดดึงหน้าแบบทั่วไป ทำให้กระชับผิวหน้าได้ดีกว่า
- ใช้เทคนิคการเปิดแผลขนาดเล็ก และซ่อนรอยแผลไว้หลังแนวผม ทำให้หมดกังวลเรื่องรอยแผล
- ระยะเวลาการผ่าตัดสั้นกว่าการผ่าตัดดึงหน้าทั่วไป
- โอกาสในการเกิดผลข้างเคียงหลังผ่าตัดมีน้อย อาการบวมช้ำน้อยกว่าการผ่าตัดดึงหน้าทั่วไป แผลผ่าตัดสมานตัวเร็ว และใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน
- ให้ผลลัพธ์อย่างมีประสิทธิภาพ และคงอยู่ยาวนานได้ 5-10 ปี
ข้อเสียของการผ่าตัดดึงหน้าแบบเอนโดไทน์
- การผ่าตัดดึงหน้า Endotine มีความซับซ้อนและต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากการผ่าตัดลงลึกไปถึงผิวหนังชั้น SMAS ซึ่งประกอบไปด้วยเส้นประสาทและอวัยวะสำคัญต่างๆ การผ่าตัดด้วยเทคนิคนี้จึงต้องทำโดยแพทย์ที่มีความชำนาญสูงเท่านั้น
- หลังการผ่าตัดจะมีอาการชาที่บริเวณศีรษะ หน้าผาก หรือคิ้วชั่วคราว
- ต้องใช้ยาสลบในการผ่าตัด หากไม่ได้รับการดูแลจากวิสัญญีแพทย์ที่เชี่ยวชาญ อาจเกิดอันตรายขณะผ่าตัดได้