หนังตาตั้งแต่กำเนิดเกิดจากความพิการของกล้ามเนื้อที่ใช้ยกหนังตา ซึ่งเป็นหนังตาเปิดได้ไม่เต็มที่ อาจเกิดจากสาเหตุหลายอย่าง เช่น ความพิการแต่กำเนิดหรือเป็นภายหลังจากอุบัติเหตุ กล้ามเนื้อหรือเส้นประสาทผิดปกติ ภาวะหนังตาพิการแต่กำเนิดได้บ่อยที่สุด เป็นความผิดปกติของกล้ามเนื้อที่ใช้ในการเปิดหนังตาฝ่อแต่เกิดทำให้ไม่ สามารถเปิดหนังตาได้ปกติ ซึ่งอาจเป็นข้างเดียวหรือ 2 ข้างเดียวก็ได้
โดยทั่วไปขณะที่มาทำการปรึกษา แพทย์จะทำการตรวจดูการทำงานของกล้ามเนื้อและความรุนแรงของโรคเพื่อประเมิน วิธีการผ่าตัด ถ้ากล้ามเนื้อยังทำงานได้บางส่วน อาจจะต้องผ่าตัดโดยเย็บกล้ามเนื้อให้มีความสั้นลง แต่ถ้ากล้ามเนื้อทำงานได้น้อยมาก การผ่าตัดต้องใช้กล้ามเนื้อหน้าผากมาดึงหนังตา
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
สารบัญ
ก่อนการผ่าตัดมาทำความรู้จักกับกล้ามเนื้อตากกก่อน ในกรณีที่กล้ามเนื้อตาเกิดตกจากสาเหตุบางชนิดที่เกิดจากสารในกล้ามเนื้อ ซึ่งมักไม่ได้ เป็นตลอดเวลาสามารถใช้ยาช่วยทำให้ลืมตาดีขึ้นได้ ในกรณีที่กล้ามเนื้อทำงานผิดปกติ แพทย์จะทำการผ่าตัดกล้ามเนื้อทำงานได้น้อยนั้นให้เปิดตาได้ใกล้เคียงกับปกติ แต่เมื่อหลับตาจะปิดตาไม่สนิทเนื่องจากกล้ามเนื้อทำงานได้น้อย กล้ามเนื้อที่ผิดปกติอาจทำให้ตาตกมากหรือน้อยและส่งผลทำให้ตาเปิดได้มากหรือ น้อยตามกำลังของกล้ามเนื้อ
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาบางอย่างซึ่งอาจทำให้เลือดหยุดช้า เช่น แอสไพริน บรูโรเฟน พอนสแตน ฯลฯ ถ้ากินยาควรหยุดยาประมาณ 10 – 14 วัน
- สมุนไพรและอาหารบางชนิดเช่น อาหารที่มีส่วนผสมของผงชูรส กระเทียม หัวหอม ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง อาจทำให้เลือดออกมากผิดปกติหรือมีปัญหาระหว่างผ่าตัด ควรแจ้งให้แพทย์ทราบเพราะอาจต้องหยุดรับประทานสมุนไพรก่อนเข้ารับการผ่าตัด ประมาณ3 – 5 วัน
- วิตามิน และอาหารเสริมต่างๆ เช่น วิตตามินซี อีฟนิ่งพริมโรส กลูต้า คลอลาเจน และอื่นๆ ควรหยุดทานอย่างน้อย 10-14 วันก่อนการผ่าตัด
- ควรแจ้งให้แพทย์ทราบถึงโรคประจำตัวของคุณ เช่น เบาหวาน ความดัน โรคหัวใจ และยาที่แพ้ เช่น เพนนิซิลินซัลฟา ฯลฯ
- ควรเตรียมนำแว่นกันแดดไปด้วย เพื่อใช้อำพรางดวงตาหลังการผ่าตัด และป้องกันฝุ่นละอองควรมีผู้ขับรถให้ เพราะหลังการผ่าตัดจะยังใช้สายตาได้ไม่สะดวกนัก จึงไม่ควรขับรถเอง
- เตรียมลาหยุดงาน 5 วัน
- ล้างหน้าก่อนมาผ่าตัด ไม่ควรแต่งหน้าในวันผ่าตัด
- ผู้ที่เป็นโรคหัวใจขาดเลือด ต้องการยา aspirin หรือ ผู้ที่เป็นโรคลิ้นหัวใจและทานยา Cumadinเป็นประจำ สามารถทำผ่าตัดได้ต่อเมื่อแพทย์ที่รักษายินยอมให้ทำการผ่าตัดและจะทำผ่าตัด เฉพาะในโรงพยาบาลเท่านั้น
- ผู้ที่ใช้เครื่องกระตุ้นการทำงานของหัวใจ ไม่ควรมารับการผ่าตัด เนื่องจากเครื่องจี้ไฟฟ้าอาจมีผลต่อการทำงานของเครื่องกระตุ้นหัวใจได้
- ถ้ามีความดันโลหิตสูง ต้องควบคุมให้ต่ำกว่า 140/90 mm Hg (มิลลิเมตร ปรอท)ก่อนมารับการผ่าตัด
- ถ้าใส่คอนแทคเลนส์ ควรถอดออกแล้วใส่แว่นตา วันที่มาผ่าตัดควรมีคนมาเป็นเพื่อน เพื่อช่วยดูแลขณะกลับบ้าน
- ถอดวัสดุโลหะ เช่น แหวน, สร้อยคอ, นาฬิกา ฯลฯ ก่อนเข้าห้องผ่าตัด
การรักษา
- ในกรณีที่กล้ามเนื้อตาเกิดตกจากสาเหตุบางชนิดที่เกิดจากสารในกล้ามเนื้อ ซึ่งมักไม่ได้
เป็นตลอดเวลาสามารถใช้ยาช่วยทำให้ลืมตาดีขึ้นได้ - ในกรณีที่กล้ามเนื้อทำงานผิดปกติ แพทย์จะทำการผ่าตัดกล้ามเนื้อทำงานได้น้อยนั้นให้เปิดตาได้ใกล้เคียงกับปกติ แต่เมื่อหลับตาจะปิดตาไม่สนิทเนื่องจากกล้ามเนื้อทำงานได้น้อย กล้ามเนื้อที่ผิดปกติอาจทำให้ตาตกมากหรือน้อยและส่งผลทำให้ตาเปิดได้มากหรือ น้อยตามกำลังของกล้ามเนื้อ
การดูแลหลังการผ่าตัด
- นอนยกศีรษะสูง (หนุนหมอน 2 ใบ) ประคบเย็นที่ตาทั้ง 2 ข้าง วันละ 4 ครั้ง ประคบประมาณ 5 – 7 วัน เพื่อลดอาการบวม
- ผ้าก็อส (GAUZE) ที่ปิดแผลบนตานั้นให้ปิดเพียง 1 วัน หลังจากทำผ่าตัด จากนั้นให้เปิดผ้าออกได้เลย ไม่ต้องนำมาปิดอีก
- ใช้ไม้พันสำลีชุบน้ำยาสะอาดในขวดเช็ดคราบเลือดและสิ่งสกปรกออก โดยเช็ดอย่างเบามือวันละ 2 – 3 ครั้ง และเช็ดได้บ่อย ๆ เมื่อสกปรก
- รับประทานยาตามแพทย์สั่งจนหมด ถ้าเกิดการแพ้ยา เช่น คัน มีผื่นแดง คลื่นไส้ – อาเจียนแน่นหน้าอกให้หยุดรับประทานทันที และรีบมาพบแพทย์
- หลังทำผ่าตัด 5 วัน ให้มาตัดไหม
- หลังทำผ่าตัด 2 อาทิตย์ หรือ 1 เดือน ให้มาพบแพทย์เพื่อตรวจอาการอีกครั้ง (โทรนัดล่วงหน้า)
- งดสุราหรือบุหรี่ 2 อาทิตย์ หลังผ่าตัด
- กลับบ้านได้ แต่ควรหาโชเฟอร์มาขับรถให้
- อาจจะมีน้ำตาไหลตลอดเวลาชั่วระยะหนึ่ง โดยเฉพาะเวลาที่โดนลม แต่จะหายไปภายในไม่กี่อาทิตย์
การดูแลหลังการตัดไหม
- หลังจากตัดไหมแล้วตาจะยังมีอาการบวมอยู่ประมาณ 2 อาทิตย์ถึง 1 เดือน จากนั้นประมาณ 3 เดือน แผลจะหายเป็นปกติ และดูเป็นธรรมชาติ
- หลังตัดไหมแล้ว ให้ใช้ EYE CREAM ทานวดที่แผลครั้งละ 30 – 40 ครั้ง วันละ 2 เวลา (เช้า-เย็น) เพื่อป้องกันการเกิดแผลเป็นนูนแข็ง
- หลังทำผ่าตัดแล้ว 1 อาทิตย์ ในกรณีที่แผลเขียวช้ำ สามารถประคบอุ่นได้ โดยประคบวันละประมาณ 2-3 ครั้ง ประมาณ 3-5 วัน
- หากมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับแผล เช่น ตาแดงมาก เคืองตา แผลแยก ให้มาพบแพทย์ทันที
- ล้างหน้า รับประทานอาหาร ออกกำลังกาย โดนแสงแดดได้ตามปกติห้ามขยี้ตาแรงเป็นเวลา 2 เดือน