Scroll Top

แก้ไขร่องแก้มลึก

การแก้ไขร่องแก้มลึกสามารถทำได้ 2 วิธีคือ

1. การเสริมร่องแก้มโดย Implantech
2. การแก้ไขร่องแก้มลึกโดย การผ่าตัดเสริมใต้ร่องแก้มและฉีดไขมันร่องแก้ม

ร่องแก้มลึกและยาวเป็นลักษณะของคนที่มีอายุ มากหรือ คนที่มีอายุไม่มาก ถ้าเริ่มมีร่องแก้ม จะทำให้รูปใบหน้าดูแก่ลง การแก้ไขร่องแก้มที่ลึกนั้นอาจทำได้โดยการดึงหน้า ในบางครั้ง  อาจจะเร็วเกินไปในคนที่มีอายุยังไม่มาก

สาเหตุที่ทำให้ร่องแก้มลึกและยาว ได้แก่

  1. อายุ เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้มีริ้วรอย ร่องแก้ม
  2. แสงแดด  เป็นสาเหตุที่เป็นตัวกระตุ้นให้ร่องแก้มลึกได้ เพราะแสงแดดจะทำไห้ผิวหยาบกร้านและเหี่ยวย่น
  3. กรรมพันธุ์ คนที่มีผิวแห้งจะทำไห้มีริ้วรอยได้เร็วกว่า ลึกกว่าคนที่ผิวชุ่มชื่น
  4. การรักษาสุขภาพผิว  ในกรณีที่เกิดร่องแก้มลึกในขณะที่อายุยังไม่มาก
  5. โครงหน้า สำหรับคนที่มีแก้มเยอะก็จะทำไห้มีโอกาสเกิดร่องแก้มลึกได้มากกว่าคนที่ไม่ค่อยมีแก้ม

ปัญหาร่องแก้มลึกไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะผู้ที่มีอายุมาก ผู้ที่มีอายุน้อยพบปัญหาร่องแก้มลึก ส่วนใหญ่มักจะเติมสารที่เรียกว่า ฟิลเลอร์ หรือซิลิโคนเหลว แต่สารเหล่านี้อาจจะอยู่ได้ไม่นาน และไม่มีความเป็นธรรมชาติ

การรักษาร่องแก้มลึกยาว มีวิธีการรักษาได้หลายวิธีได้แก่

  1. เติม Filler  วิธีนี้จะฉีดสารฟิลเลอร์เข้าไปในร่องแก้ม ทำได้เร็วและไม่ต้องผ่าตัด แต่จะอยู่ได้ประมาณ 8-12 เดือน วิธีนี้จะได้รับความนิยมมาก
  2. ผ่าตัดยกกระชับ เป็นวิธีการผ่าตัดดึงหน้าทำไห้ร่องแก้มหายได้ เหมาะสำหรับคนอายุมากที่ร่องแก้มลึกและหน้าเหี่ยวมากๆ
  3. เลเซอร์ เหมาะสำหรับคนที่ร่องแก้มลึกและยาว จะยิงเลเซอร์เข้าไปบริเวณร่องแก้มเพื่อให้พลัดเซลล์ผิวใหม่
  4. การใช้ซิลิโคนแท่งเสริม ใต้ร่องแก้มจะช่วยให้ร่องแก้มส่วนนั้นนูนขึ้น วิธีนี้ใช้ได้กับคนที่มีฟันบนยื่น
  5. การฉีดไขมัน  ไขมันเป็นสารธรรมชาติของร่างกาย ตำแหน่งในการฉีดร่องแก้ม เป็นการฉีดในตำแหน่งตื้น และมักจะไม่มีช่องว่างให้ฉีด การใช้เทคนิคปกติในการฉีดไขมันมักจะฉีดไขมันที่ร่องไม่ได้ การฉีดต้องใช้เทคนิคพิเศษ ในที่นี้จะกล่าวถึงเฉพาะเทคนิคหลักๆ ในดารแก้ไขร่องแก้มลึก คือการเสริมด้วยซิลิโคนและการฉีดไขมัน

A. การเสริมใต้ร่องแก้มโดย Silicone หรือ กอร์เท็กซ์

ร่องแก้มเป็นร่อง ที่อยู่ระหว่างริมฝีปากและแก้มออกจากกันโดยส่วนนี้ของร่องมักจะอยู่ที่ด้านข้างของปีกจมูก ส่วนล่างอยู่ที่ด้านข้างของมุมปาก ส่วนบนที่อยู่ด้านข้างของจมูกจะเป็นส่วนที่ลึกและกว้าง และจะบางลง เมื่อร่องอยู่ไกลจากจมูกมากขึ้น การเสริมใต้ร่องแก้มทำได้โดยใช้วัสดุชนิดเฉพาะ เช่นซิลิโคน กอร์เท็ก หรือ Medpore เสริมเข้าไปใต้ร่องแก้มส่วนที่ติดกับปีกจมูก เสริมผ่านแผลในปาก โดยใช้วิธีนี้เป็นที่ได้ผลดี ใช้ร่องที่กว้างและลึกบริเวณด้านข้างของจมูก แต่จะไม่ช่วยในร่องที่ตื้นๆ การผ่าตัดแบบนี้ยังช่วยแก้ไขปัญหากระดูกที่ทรุดใต้ปีกจมูก และผู้ที่ปากยื่นให้ดูดีขึ้น

B. การฉีดไขมันเพื่อแก้ไขร่องแก้ม

โดยปกติการแก้ไขร่องแก้มนิยมทำโดยฉีด filler เพราะ ฉีดได้ง่าย อย่างไรก็ตาม การฉีด filler ในบางคนอาจจะทำได้ไม่ดี โดยเฉพาะคนที่มีร่องแก้มลึกและแคบ โดยทั่วไปการฉีด filler จะเติมได้ดีในหลุมกว้างและลึก เช่น  หลุมใหญ่ใต้ผิวหนัง บริเวณแก้ม  หรือขมับ  แต่บริเวณร่องแก้มเนื่องจากร่องอยู่ในชั้นตื้นในชั้นผิวหนัง การฉีดเติมในชั้นตื้นบางครั้งตื้นเกินไปก็คลำได้ชัด บางคนลึกเกินไปก็ใช้เติมในบริเวณด้านข้างของร่องแก้ม ทำไห้ร่องแก้มยังดูลึกขึ้น จะเห็นได้ว่า การฉีดร่องแก้มดูเหมือนจะเป็นเทคนิคที่ง่ายและปลอดภัย แต่ในทางปฏิบัติจริงอาจทำได้ไม่ดีเท่าไหร่

การฉีดไขมันร่องแก้ม เป็นวิธีที่ยากกว่าการฉีด filler เพราะโดยทั่วไปไขมันไม่สามารถนำมาฉีดในชั้นผิวหนังได้ เพราะเป็นตำแหน่งที่ตื้นเกินไป การฉีดไขมันใช้เข็มทู่ขนาดใหญ่  ไม่สามารถฉีดในตำแหน่งร่องแก้มได้ดี เพราะตื้นและแคบ ไม่สามารถฉีดหลายระดับได้ การนำเซลล์ไขมันมาฉีดร่องแก้ม จะต้องใช้เทคนิคพิเศษ แตกต่างจากการฉีดไขมันทั่วไป คือ

  1. ใช้หัวฉีดชนิดพิเศษ  (รูปหัวฉีด) ที่มีปลายตัดพังผืดของร่องแก้ม พร้อมกับการฉีด การตัดพังผืดทำไห้เกิดช่องว่างในชั้นไขมัน และด้านหน้าของรูเข็มที่ปล่อยไขมันทำไห้มีช่องว่างที่กว้างขึ้นเพื่อรองรับเซลล์ไขมัน
  2. การทำ Subciseon ก่อนการฉีดในเข็มขนาดเล็กตัดพังผืดในร่องแก้มกับการฉีดไขมัน การทำ Subciseon ทำไห้ปัญหาร่องที่กว้างกว่านี้ทำไห้ฉีดไขมันง่ายขึ้น
    การเลือกเทคนิคการผ่าตัด อาจเลือกเทคนิค A หรือ B อย่างเดียวหรือทั้ง 2 เทคนิคก็ได้ ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของร่องแก้มอยู่ที่ไหน คงต้องให้แพทย์เป็นผู้ประเมินก่อนทำการผ่าตัด

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด

  1. ถ้ามีแผลหรือสิวที่บริเวณร่องแก้มหรือด้านข้างของจมูก ควรรอให้สิวหรือแผลหายก่อนจึงจะทำการผ่าตัดได้
  2. งดยาต้านการอักเสบ (NSAID) เช่นแอสไพริน บุหรี่ อาหารเสริมบางตัวที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น กระเทียม น้ำมันปลา อย่างน้อย 2 อาทิตย์ ก่อนการผ่าตัด
  3. หยุดรับประทานสมุนไพรก่อนเข้ารับการผ่าตัดประมาณ 3 – 5 วัน
  4. ควรมีเพื่อนมาด้วยในวันผ่าตัด
  5. ลาหยุดงาน ประมาณ 3 – 5 วัน
  6. ควรแจ้งให้แพทย์ทราบถึงโรคประจำตัวของคุณ เช่น เบาหวาน,โรคหัวใจ, โรคหลดเลือดสมอง และยาที่แพ้ เช่น เพนนิซิลิน,ซัลฟา ฯลฯ
  7. ล้างหน้าก่อนได้รับผ่าตัด
  8. การใช้เทคนิคการฉีดไขมัน เตรียมความสะอาดหรือโกนขนบริเวณที่จะทำการดูดไขมัน

ขั้นตอนการผ่าตัด

เทคนิค A เสริมซิลิโคนใต้ร่องแก้ม

    1. ให้ยานอนหลับที่มีฤทธิ์สั้นๆ ลดอาการวิตก และฉีดยาชารอบจมูก และปากบน
    2. แผลที่ผ่าตัดจะมีความยาวประมาณ 1 ซม. รอบเหงือกบน
    3. ผ่าตัดสร้างช่องว่าง (Pocket) ด้านข้างของจมูก
    4. ใส่แท่งซิลิโคนที่เตรียมไว้และตรวจสอบความเรียบร้อย
    5. เย็บปิดแผลโดยใช้ไหมละลาย
    6. ปิดพลาสเตอร์ เพื่อช่วยป้องกันการขยับของซิลิโคน ทั้งนี้การใช้วัสดุเย็บแผลหรือชนิดพลาสเตอร์ขึ้นอยู่    กับการพิจารณาของแพทย์
    7. ใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 45 นาที ไม่ต้องนอนพักที่โรงพยาบาล
    8. นอนพักประมาณ 15-20 นาที เมื่อฤทธ์ยาชาลดลงจึงกลับบ้านได้

เทคนิค B

  1. ฉีดยาชาบริเวณที่จะทำการดูดไขมัน อาจจะเป็นหน้าท้องหรือต้นขาเป็นตำแหน่งที่ใช้ไขมันบ่อยๆ
  2. ดูดไขมันโดยใช้เข็มดูดขนาด 2-3 mm.
  3. นำไขมันมาเตรียมเพื่อทำการฉีด
  4. วาดรูปตำแหน่งร่องแก้ม ที่จะฉีดไขมันและฉีดยาชา
  5. ใช้เข็มฉีดไขมันแบบพิเศษ ฉีดไขมัน 1-2 ซีซี
  6. ถ้าไม่ใช้วิธีในข้อ 5 อาจใช้เข็มปลายแหลมทำการ Subcision ก่อนจะฉีดไขมันโดยใช้เข็มฉีดไขมันแบบปกติ
  7. เย็บแผลบริเวนที่ดูดไขมัน และบริเวนที่ฉีดไขมันโดยใช้ไหมขนาดเล็ก

การดูแลหลังผ่าตัด

เทคนิค A

  1. ประคบน้ำเย็นที่บริเวณร่องแก้ม  ในระยะเวลา 2 วันแรกหลังการผ่าตัด โดยใช้เจลประคบเย็น/หรือใช้ก้อนน้ำแข็งนำมาประคบเพื่อบรรเทาอาการบวมและช่วยห้ามเลือด
  2. ควรนอนยกศีรษะสูงไว้  ประมาณ 1 อาทิตย์
  3. รับประทานยาแก้อักเสบและยาลดบวมตามที่แพทย์สั่งจนหมด หากมีอาการปวด สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้
  4. รับประทานอาหารได้ทุกอย่าง ยกเว้น อาหารที่มีรสเผ็ดจัดเป็นระยะเวลา 7 วันหลังผ่าตัดเพราะจะทำให้ความดันเลือดสูงขึ้น อาจทำให้มีเลือดออกจากแผลได้
  5. ควรงดเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ 7 วัน เพราะจะทำให้เส้นเลือดขยาย  และจะทำให้แผลยุบบวมช้าลง
  6. ควรงดสูบบุหรี่ 2 อาทิตย์เพราะจะทำไห้แผลหายช้า
  7. สามารถทำงานได้ตามปกติ แต่ควรงดการทำงานหรือการออกกำลังกายรุนแรง 7 วันหลังผ่าตัด
  8. บ้วนปากบ่อยๆด้วยน้ำเกลือ หรือน้ำยาบ้วนปากที่จัดให้
  9. ไหมผ่าตัดเป็นไหมที่ละลาย ไม่ต้องทำการตัดไหม
  10. แพทย์จะนัดตรวจแผลประมาณ 7 วัน
  11. ตรวจครั้งที่ 2 ประมาณ 3 อาทิตย์หลังยุบบวม
  12. ผลการผ่าตัดจะเข้าที่และเปลี่ยนแปลงประมาณ 3 อาทิตย์

เทคนิค B

  1. ทานยา ลดบวมและยาทานแก้อักเสบตามแพทย์สั่ง
  2. ถ้ามีอาการผิดปกติหรือแดงมากให้กลับมาพบแพทย์
  3. ใช้น้ำเกลือเช็ดแผลที่ผ่าตัดและแก้ม ทายาฆ่าเชื้อ เช้าเย็น
  4. นัดตัดไหมเมื่อครบ 5 วัน
  5. อาการบวม จะบวมมากประมาณ 1 อาทิตย์ และจะลดลงในช่วง อาทิตย์ที่ 2
  6. จะคลำได้ก้อนตรงบริเวณแก้มประมาณ 2-3 เดือนหลังจากนั้นจะคลำได้ยากขึ้น
Privacy Preferences
When you visit our website, it may store information through your browser from specific services, usually in form of cookies. Here you can change your privacy preferences. Please note that blocking some types of cookies may impact your experience on our website and the services we offer.